เธอผิดนักเหรอที่เกิดมาเป็นผู้หญิงหัวโบราณ หวงเนื้อหวงตัวไม่ยอมให้ใครแตะต้อง แม้แต่คนรักของเธอเองก็ตาม ถ้ามันผิดมากนักต่อไปนี้เธอก็จะแรด จะอ่อยให้ดู เธอจะไม่เก็บซิงไว้ชิงโชคอีกแล้ว... อ่อยให้สุดแล้วไปหยุดที่ใครดี...
ถ้าหากเรารักใครสักคน เราก็จะสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อเขา...
ก๊อกๆๆ
พระพายหญิงสาวท่าทางเรียบร้อยใส่แว่นหนาเตอะ เธอกำลังเคาะประตูของห้องพักห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องของภูมิแฟนหนุ่มคนแรกและคนเดียวของเธอ ทั้งสองคบหากันมานานหลายปีตั้งแต่มัธยมจนถึงปัจจุบัน แต่ถึงแม้จะคบกันมาหลายปีแล้วทั้งสองก็ไม่เคยมีอะไรกันเกินเลย เพราะหญิงสาวเป็นผู้หญิงที่หัวโบราณมากๆ สิ่งที่เธอสามารถให้แฟนหนุ่มของเธอได้ก็มีเพียงแค่การจับมือเท่านั้น
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นวันเกิดของแฟนเธอ พระพายเลยตั้งใจทำเค้กมาอวยพรให้เขาเป็นคนแรก
ก๊อกๆๆ
พระพายยกมือขึ้นเคาะประตูอีกครั้ง เมื่อแฟนหนุ่มของเธอยังไม่เดินออกมาเปิดประตูให้
“หรือว่าจะนอนแล้ว” พระพายพูดพึมพำออกมา เวลาดึกดื่นขนาดนี้แฟนของเธอคงจะนอนหลับไปแล้วแน่ๆ พระพายจึงถือกล่องเค้กด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือหนึ่งเธอก็ล้วงมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจออกมาไขประตูห้อง
เธอเปิดประตูเข้าไปช้าๆ แล้วปิดเอาไว้ตามเดิม ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อเอาเค้กออกมาปักเทียนแล้วจึงจะเอาไปเซอร์ไพรส์แฟนของเธอในห้องนอน
เมื่อเธอปักเทียนและจุดไฟเรียบร้อยหมดแล้ว เธอก็ยืนมองเค้กตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เธอยกมันขึ้นมา แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนที่ประตูเปิดอ้าเอาไว้ ภายในห้องนอนนั้นมืดสนิท
“เซอร์ไพรส์...” พระพายพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มของเธอจะต้องหุบลงช้าๆ เมื่อแสงเทียนที่เธอจุดมันสามารถทำให้เธอมองเห็นว่าบนเตียงนั้น มีแฟนของเธอกับผู้หญิงคนหนึ่งนอนกอดกันด้วยสภาพที่ท่อนบนเปลือยเปล่าทั้งคู่
พระพายตั้งสติสักพักเพราะคิดว่าตัวเองคงตาฝาด เธอเอื้อมมือไปกดสวิตซ์ไฟเพื่อให้ตัวเองได้เห็นอะไรชัดเจนขึ้น
แสงไฟสว่างจ้าขึ้นภายในห้อง ภาพทุกอย่างฉายชัดอยู่ตรงหน้าพระพายอย่างชัดเจน
แผละ!
เค้กปอนนั้นที่เธอถืออยู่ล่วงหล่นลงสู่พื้นทันที ความรู้สึกทุกอย่างมันตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่อก ขณะที่ดวงตาของเธอก็เริ่มคลอด้วยหยาดน้ำตา
“ใครวะ!” ภูมิ แฟนหนุ่มของเธองัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อแสงไฟมันส่องเข้าตาของเขา เขาพึ่งจะหลับได้เพียงไม่นาน เพราะกิจกรรมบนเตียงที่พึ่งทำจบไป
“พระพาย!” ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ เขารู้สึกตื่นขึ้นเต็มตา เมื่อเห็นว่าแฟนสาวของตัวเองกำลังยืนอยู่ที่ปลายเตียง และมองมาที่เขากับผู้หญิงข้างกายด้วยสายตาเจ็บปวด
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย...ฮึก” พระพายพูดออกมาเสียงสั่น พลางสะอื้นออกมาเล็กน้อย ขณะที่ผู้หญิงข้างกายของภูมิก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน หญิงสาวคนนั้นมองพระพายด้วยหางตา ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปซบหน้าที่อกแกร่งของภูมิอย่างออดอ้อน
“อยากจะรู้เหรอ” ภูมิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับถามออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ วันนี้คงจะเป็นวันที่เขาจะสามารถตัดทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระพายให้หมดสิ้น
“เธอคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนทนกับเธอได้นานบ้างล่ะ ผู้หญิงจืดชืดแบบเธอน่ะไม่มีใครเขาคิดจะเอาหรอก” ภูมิพูดออกมานิ่งๆ เขาเป็นผู้ชายเขามีความต้องการ แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่สามารถมอบมันให้เขาได้ เขาจึงต้องไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แบบนี้
ตอนแรกเขาก็รักเธอ แต่พอนานไปมันก็เริ่มเบื่อ เลิกแล้วไปหาอะไรที่มันตื่นเต้นไม่ดีกว่าเหรอ
“แต่เราคบกันมานานแล้วนะภูมิ...ฮึก...เราสองคนรักกันไม่ใช่เหรอ” พระพายถามออกมา เธอยังคงหวังว่าเขาจะไม่ตอบอะไรที่มันทำให้เธอเจ็บปวดออกมาอีก
ภูมิเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูข้างเตียงมาพันช่วงล่างของตัวเองเอาไว้ เขาลุกลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามาหาพระพายช้าๆ พระพายยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อจะโอบกอดเขา แต่เขาก็ผลักมือของเธอออกอย่างไม่ใยดี
“นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ไม่ใช่!” ภูมิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง คำพูดของเขาแต่ละคำมันเหมือนมีดคมๆ ที่กรีดลึกลงมาบนหัวใจของเธอ
“ออกไปจากห้องนี้ได้แล้วไป” เขาผลักตัวของเธอพร้อมกับพูดไล่ออกมา พระพายผละถอยหลังไปเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
“ไม่ พายจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าเรายังคุยกันไม่จบ” พระพายพูดออกมา น้ำเสียงของเธอมันยังคงเต็มไปด้วยเสียงสะอึกสะอื้น
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว ออกไปซะ!” ภูมิพูดออกมาเสียงเข้มพลางผลักตัวพระพายให้ออกไป แต่เธอก็ยังคงฝืนตัวเองเอาไว้ด้วยขาเล็กๆ สองข้างนั้น
“ภูมิเดี๋ยวจูลี่จัดการให้เอง” จูลี่ คือชื่อของหญิงสาวคนนั้น เธอเดินเข้ามาหาพระพายหลังจากที่ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเอาไว้แล้ว
พรึ่บ!
“โอ๊ย” พระพายร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อถูกเล็บเรียวยาวสีแดงเพลิงของจูลี่จิกเข้ามาที่เส้นผม
“ถ้าออกไปดีๆ ไม่ได้ก็คงต้องใช้กำลัง” จูลี่กระชากศีรษะของพระพายเล็กน้อย เพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ
ยามใดที่ได้กลิ่นหอมของเธอ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ทั้งชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยมีใครแสดงท่าทีรังเกียจฉันได้มากเท่าเขาอีกแล้ว… “คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าคะคุณแซ้งค์” “ใครจะกล้ามีปัญหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างคุณเอวาได้ล่ะครับ” “ก็คุณไงคะ” .......................................................................................... ฉันต้องรู้สึกยังไงที่จู่ ๆ ก็มีคนบางคนชอบแสดงท่าทีเหมือนรังเกียจ ทุกครั้งที่พยายามเข้าใกล้ เขาก็จะถอยห่าง มองจากดาวอังคารยังรู้ ว่า ‘คุณแซ้งค์’ กำลังไม่ชอบขี้หน้าฉันอย่างแรง แต่บอกไว้ก่อน เราไม่เคยมีเรื่องกัน แล้วทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “บอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่ชอบฉันนัก” “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ผมแค่ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ” “แล้วมันทำไม?” “ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง” หลังจากได้รับคำตอบ ฉันก็ไม่เคยเข้าใจในความหมายนั้น กระทั่งคืนหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเราไปตลอดกาล...
ยามใดที่ร่างกายสัมผัสถูกเกสรดอกไม้ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... เพราะความเมามายเป็นเหตุ จึงทำให้ฉันต้องอยู่บนเตียงกับเขาตลอดทั้งค่ำคืนนั้น คิดว่าจะจบ ทว่าเราสองคนกลับหวนมาเจอกันอีกครั้งในวันหนึ่ง “คุณท้องกับผมเหรอ?” “คุณคิดว่าเครื่องตัวเองฟิตสตาร์ทติดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” .......................................................................................... ชีวิตของฉันซวยมากเลยค่ะคุณกิตติคะ ด้วยความที่เพื่อนงอนกับแฟนก็เลยอยู่ช่วยปลอบใจ พร้อมคอยปรามไม่ให้เพื่อนดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายไร้สติ แต่จู่ๆ ก็มีนังตัวดีที่ไหนไม่รู้ส่งคลิปคนรักของฉันซึ่งกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นมาให้ดู ไป ๆ มา ๆ จึงกลับกลายเป็นว่าเพื่อนต้องปลอบใจฉันแทน อาการเจ็บช้ำหัวใจที่จู่โจมเข้ามากะทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้ฉันกระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ แบบไม่หยุดยั้ง ยังค่ะ...เรื่องยังไม่จบที่ตรงนั้น แฟนเพื่อนตามมารับเพื่อนกลับบ้าน แต่ก็ยังมีน้ำใจพาฉันขึ้นไปห้องพัก ทว่า...ห้องนั้นดันไม่ใช่ห้องของฉันนี่สิ "คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องของผมได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้!" ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเอ่ยปากไล่ฉันดูแปลกตา คล้ายกับกำลังระงับอารมณ์บางอย่าง กระนั้นระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ทำให้ฉันไม่อยากสนใจอะไรนอกเสียจากล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง "อะไร? จะแปลงร่างเหรอ? ไปเล่นที่อื่นไปหนู พี่จะนอน" ความเมาเป็นเหตุสังเกตได้ ตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงได้รู้ ว่าตนเองถูก 'คนแปลกหน้า' พรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว...
ยามใดที่ดวงอาทิตย์ตกดิน นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ค่ำคืนนั้นเขาช่างเร่าร้อน ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราล้วนไม่ใช่เพราะความรัก... "ขึ้นชื่อว่าคนดูแลชั่วคราว เธอก็จะได้อยู่แค่ในสถานะนั้น อย่าใฝ่สูง" .......................................................................................... ฉันได้รับหน้าที่ให้ดูแล 'ผู้ชายคนหนึ่ง' ทว่าของแถมที่พ่วงติดมาด้วยนั้นคือเรื่องราวน่า 'ประหลาด' ซึ่งเป็นเหตุทำให้ชีวิตของฉันต้องพลิกผันไปตลอดกาล "คุณซานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" การเห็นเจ้านายแสดงท่าทีราวกับทุกข์ทรมานอยู่ตรงหน้า จึงไม่นิ่งนอนใจที่จะเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมขยับก้าวเข้าไปเพื่อช่วยพยุง "ออกไป!" ทว่าร่างสูงตรงหน้ากลับตะคอกใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หนำซ้ำยังสะบัดตัวฉันออกจนเซถลาเกือบล้มลงกระแทกพื้น "ออกไปจากห้องฉัน...เดี๋ยวนี้!!" หากย้อนเวลากลับไปได้ คืนนั้นฉันจะเชื่อฟัง และยอมเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี...
ผมไม่เคยคิดว่าการที่ไว้หนวดไว้เครา และทำตัวเซอร์ๆ จะทำให้ใครบางคนต้องร้องไห้เพียงเพราะแค่เห็นหน้า "ฮือ...แม่จ๋าหนูกลัวโจร" เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ในวันนั้น คือคนที่ผมต้องสยบจวบจนถึงทุกวันนี้... ........................................................................ ฉันไม่รู้ว่าเริ่มชอบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าพอได้ชอบฉันก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของตัวเองได้อีกเลย... วินาทีแรกที่เจอกัน 'เขา' ทำให้ฉันรู้สึกกลัว แต่พอนานวันเข้า เขากลับเป็นคนที่สอนให้ฉันรู้จักคำว่า 'ความรัก' "ถ้าโตขึ้นแล้วมีผู้ชายมาชอบหนู แด๊ดดี้จะทำยังไงคะ?" "ฆ่ามัน" ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ พอโตมาถึงได้รู้ ว่าฉันจะต้องเป็นของแด๊ดคนเดียวตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม...
"มาโรงพยาบาลวันนี้ป่วยเป็นอะไรอีกล่ะคะ" "พอดีกินข้าวไม่ค่อยได้น่ะครับ" "หืม? มีอาการอาเจียนด้วยหรือเปล่าคะ หรือว่ายังไง" "เปล่าครับ แค่ไม่มีตังค์" "..." "ถ้าคุณพยาบาลไม่รังเกียจ ผมขอฝากท้องไว้สักมื้อนะครับ" "คุณท้องเหรอคะ?" ........................................................................ "ถ้านายทำร้ายฉัน ฉันจะโทรไปฟ้องพี่" ฉันรู้ว่าคำขู่ของตัวเองมันอาจจะไม่ได้ผล เพราะเขาเป็นผู้ชายที่หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าปูนซีเมนต์ หมายถึงทนมือทนตีนน่ะนะ "ฟ้องมากๆ ระวังโดนตบด้วยปากและกระชากด้วยลิ้นนะ" นอกจากจะเป็นผู้ชายที่กวนตีนแล้ว ความหื่นของเขาก็มีมากเช่นกัน หมดเรี่ยวแรงไปเท่าไหร่แล้วกับผู้ชายพันธ์นี้...โปรดอยู่ให้ห่างแล้วชีวิตจะปลอดภัย
เคยได้ยินคำว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หรือเปล่า? และฉันก็ไม่ชอบให้ใครมาหากินในที่ของฉัน แต่ 'มัน' เสือกทำ "ไม่ใช่เด็กถิ่นเช็คอินได้เปล่า" ด้วยความที่โชคชะตามันโหดร้าย จึงทำให้เราสองคน 'ได้' กัน ........................................................................ สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือความเจ้าชู้ แต่แล้ววันหนึ่งฉันกลับกลายทำตัวเป็นแบบนั้นซะเอง เหตุการณ์ที่พบเจอมันบีบบังคับให้ฉันต้องร้าย ต้องแรง และ...อยู่ให้เป็น "นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นของเด็ก กลับบ้านไปดูดนมนอนไป๊!" วาจาที่พ่นออกมาจากริมฝีปากหนาเป็นอะไรที่ฉันรังเกียจพอๆ กับการเห็นหน้า 'คนพูด' "ก่อนไป ขอเตะปากทีดิ" เท้าของฉันมันกำลังกระตุก เมื่อหูได้ยินอะไรที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เขาว่ากันว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เห็นทีว่ามันจะจริง...
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀