เพราะหลงรัก ราม ราเมศ ธนารักษ์ สจ๊วด มานาน แต่เพราะเขาเป็นคู่หมั้นของเพื่อนรัก ทำให้ พรลดา จำต้องเก็บความรักนั้นไว้ด้วยความชอกช้ำ . . “ฉันบอกแล้วว่าเราจะต้องทำทุกอย่าง อย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” “แม้ว่าเราจะไม่ได้รักกันน่ะหรือคะ” “ฉันคิดว่าความรักมันไม่เกี่ยวกับเซ็กซ์นะ และคิดว่ามันอาจจะไม่ใช่ว่าไม่รักกันเสียทีเดียว เพราะเธออาจจะกำลังแอบรักฉันอยู่ก็ได้..” พรลดาตาโตมองเขาอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาที่โตอยู่แล้วเหมือนมันจะโตมากขึ้นไปอีก และไม่ทันให้เธอตั้งตัวหรือเตรียมใจใดๆ มือใหญ่ก็ปลดกระดุมเสื้อนอนลายการ์ตูนของเธออย่างรวดเร็ว “อุ๊ย.. เดี๋ยวค่ะ พะ พี่ราม คือ..” “ไม่เดี๋ยวอะไรทั้งนั้นฉันต้องการเธอเดี๋ยวนี้..”
“ฉันให้เวลาเธอตัดสินใจสิบนาที” น้ำเสียงนั้นช่างฟังดูเย็นชาและสีหน้าของคนบอกก็เฉยเมยเมินหมาง พรลดา ถอนใจเบาๆ อย่างกลัดกลุ้ม แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยจริงๆ น่ะหรือ...
“ฉันจะไปรอข้างนอก” ราเมศ ธนารักษ์ สจ๊วด ชายหนุ่มผู้สูงส่ง หล่อเหลา ร่ำรวยเพียบพร้อม เขาเสมือนเจ้าชายผู้สูงส่งที่เธอไม่มีวันเอื้อมถึง แต่ตอนนี้เธอกำลังจะมีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าสาวของเขา...
หากมันเกิดจากความรักก็คงดีไม่น้อย แต่นี่มันไม่ใช่ แล้วเธอจะทำอย่างไรดี... พรลดาครุ่นคิดเธอก็เลือกแล้วในใจว่าจะตัดสินใจเลือกทางไหน แต่เมื่อเห็นแววตาเย็นชาของเขาแล้วทำให้เธอคิดหนักไม่น้อย
“หนูลดาจ๊ะ..” คุณแพรทิพย์ แม่ของ พิมพ์พลอย เพื่อนรักของเธอเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าหมองเศร้า
“ลดาตัดสินใจแล้วค่ะคุณแม่..” หญิงสาวหยุดพูดแล้วสูดหายใจลึกๆ
“บอกช่างมาแต่งตัวลดาได้เลยค่ะ”
“หนูลดา..” คุณแพรทิพย์น้ำตาไหลพรากเลยทีเดียว
“ขอบใจมากนะลูก ขอบใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ.. ลดาตัดสินใจแล้ว..”
“แม่ไม่รู้จะตอบแทนหนูยังไง แต่แม่ก็ขอบใจและขอให้พ่อรามรักหนูลดาของแม่จริงๆ” นางบอกด้วยความจริงใจ สายตาของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนดูออกว่าหญิงสาวตรงหน้าคิดอย่างไรกับ เจ้าบ่าวของลูกสาว ตน
“มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ..”
พรลดายิ้มบางๆ แต่แววตาช่างเศร้าสร้อยเหลือเกิน คุณแพรทิพย์ลูบศีรษะเธอเบาๆ อย่างรักใคร่เธอไม่ต่างจากพิมพ์พลอยลูกสาวของตน นางเห็นพรลดามานานและรู้นิสัยใจคอหญิงสาวสตรงหน้าดีและนางก็รู้ว่าพรลดารู้สึกอย่างไรกับราเมศ และนางก็ได้แต่หวังว่าความผิดพลาดครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสุขและทำให้ชีวิตของพรลดาได้พบกับความรักอันสวยงาม
“แม่เอาใจช่วยนะ.. เอาล่ะเดี๋ยวแม่เรียกช่างมาแต่งตัวให้..” คุณแพรทิพย์บอกแล้วเดินออกไปจากห้อง พรลดาถอนใจเบาๆ อย่างปลงตก
แม้มันจะเป็นเพียงการแต่งงานในนาม แต่เธอก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรักนี่นา จะเสียใจทำไมล่ะลดา..
หญิงสาวบอกตัวเองด้วยความขมขื่นแล้วรอสวมชุดเจ้าสาวด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดลึกๆ
พรลดานั่งเงียบมาตลอดทางที่กลับบ้าน ในขณะที่คนนั่งข้างๆ เองก็ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ตอนนี้เธอไม่ใช่ นางสาวพรลดา คนเดิมแล้ว แต่เธอคือ นางพรลดา ธนารักษ์ สจ๊วด ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ของ ราเมศ ธนารักษ์ สจ๊วด ชายหนุ่มที่เคยอยู่แต่ในฝันของเธอแต่ตอนนี้เขาเป็นสามีของเธอ และนั่งอยู่ข้างๆ นี่เอง
หญิงสาวถอนใจเบาๆ เมื่อรถจอดหน้าบ้านหลังเล็กที่เก่าและทรุดโทรมลงกว่าเดิมเล็กน้อย เธอมีโครงการจะซ่อมแซมบ้าน แต่ตอนนี้เธอคงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้วแต่ก็คงแค่ชั่วคราว..
“ขอลดาเก็บของสักครู่นะคะ”
“ตามสบาย” เขาบอกสั้นๆ
“ขอบคุณค่ะ..” พรลดาเอ่ยเสียงแผ่วไม่มองหน้าเขาแล้วเปิดประตูไม้เก่าๆ เข้าไปในบ้าน
บ้านของเธอเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงเล็กน้อย มีพื้นที่ในบ้านพอได้ปลูกผักทำสวนเพื่อกินเองและใช้ทำอาหารไปขายที่ตลาด เมื่อก่อนเธออยู่กับยายสองคน แต่ยายของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน
ยายพร มีอาชีพขายกับข้าวและเลี้ยงดูเธอมาเพียงลำพังตั้งแต่ห้าขวบเนื่องจากพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ขณะเดินทางไปทำงาน เธออยู่กับยายมมาตลอดและเรียนรู้การทำอาหารหวานคาวทุกชนิดจากยาย เธอเก็บหอมรอมริบจนสามารถเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ ในตลาดได้ ร้านข้าวราดแกงที่เธอแสนจะภูมิใจกับมันซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียวแต่สะอาดสะอ้าน
กิจการเล็กๆ ที่เธอกับยายภาคภูมิใจและรักมันมากเพราะมันคืออาชีพที่สร้างรายได้ทำให้เธอมีโอกาสได้เรียนจนจบปริญญาตรีในสาขาที่ตัวเองถนัดและชอบ ทุกๆ เช้ายายหลานจะพากันไปซื้อของทำอาหารขาย ข้าวราดแกงจานละ 30 ถึง 40 บาท ที่ทั้งถูก อร่อย และสะอาดสะอ้าน ทำให้เธอพอมีพอกินและมีเงินพอเลี้ยงดูตัวเองและส่งเสียตัวเองเรียนอย่างไม่ลำบากมากนัก อีกทั้งครูอาจารย์ก็เอ็นดูและช่วยเหลือเธออย่างมีเมตตา แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นภรรยานักธุรกิจที่ร่ำรวยมหาศาลก็ตาม เธอจะไม่ยอมทำตัวไร้ค่าเด็ดขาดและจะไม่ละทิ้งอาชีพของตน ตอนนี้แค่อาจจะหยุดกิจการสักพักแล้วเธอจะหาเวลามาเปิดร้าน พรลดาบอกตัวเองอยางนั้น
แม้วันนี้ไม่มียายพรแต่ทุกสิ่งที่ยายสอนเธอจดจำมันได้เสมอ แม้ยายจะไม่ได้อยู่ดูวันที่เธอเป็นฝั่งเป็นฝาก็ตาม แต่พรลดาก็ระลึกถึงยายตลอด
“หนูลดา..” เสียงเรียกของเพื่อนบ้านที่ยืนกวักมืออยู่ไวๆ พรลดาจึงเดินไปหา ป้าเพ็ญ เพื่อนบ้านคนสนิทที่รู้จักกันมานานตั้งแต่จำความได้
“ค่ะป้าเพ็ญ”
“หายไปไหนมาต้องหลายวัน พ่อพฤกษ์เขาถามหาทุกวันเลย”
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง