กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพล้ง!
กรี๊ด!.......
‘โอ๊ย!...พี่ศักดิ์ปล่อยแขนกานดาก่อนนะจ๊ะ กานดาเจ็บจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ปล่อยเถอะนะ กรี๊ด~ฮือ ฮือ เจ็บ’ เสียงกรีดร้องอ้อนวอน ด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ดังออกมาจากบ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ที่ตอนนี้มีหญิงสาวร่างเล็กบอบบางกำลังโดนทำร้ายร่างกาย จากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ที่อยู่กินกันมาเพียงแค่5เดือน แต่เขาก็ทำร้ายร่างกายเธอซ้ำๆ อยู่เป็นประจำ
หมับ!
‘มึงกลัวกูเหรออีกานดา อย่ามาทำเป็นสำออยหน่อยเลย กูไม่สงสารมึงหรอกนะ’ ศักดิ์หรือศักดิ์ชัยปล่อยมือออกจากแขนของกานดา จากนั้นเขาก็ตรงไปกระชากเข้าที่ผมของเธอแทน นั่นทำให้กานดานั้นต้องเซถลา ตามแรงกระชากของศักดิ์ชัย
‘โอ๊ย!เจ็บ พี่ศักดิ์ปล่อยผมกานดาก่อนนะจ๊ะ กานดาเจ็บจริงๆ ไม่ได้สำออย เชื่อกานดาสิ พี่ศักดิ์ทำร้ายกานดาเกือบทุกวัน ร่างกายของกานดามันจะรับไม่ไหวแล้วนะพี่’
‘รับไม่ไหวมึงก็ต้องรับให้ไหวอีกานดา เพราะมึงยังต้องอยู่บ้านของกู แล้วก็ไอ้เด็กเวรนั้นด้วย กูจะทุบตีมึงสองแม่ลูกยังไงก็ได้ ตราบใดที่มึงยังอาศัยบ้านของกูอยู่ เข้าใจไหมอีกานดา’
‘ก็ได้จ๊ะพี่ศักดิ์ พี่จะทุบตีทำร้ายกานดายังไงก็ได้ แต่อย่าทำอะไรท๊อปเลยนะพี่ ลูกไม่เกี่ยว’
‘มึงใช่คำว่าลูกเหรออีกานดา มึงลืมไปหรือเปล่าว่ามันไม่ใช่ลูกกู มันเป็นลูกมึงกับผัวเก่ามึงนู้น’ ศักดิ์ชัยตะเบ็งเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับเพิ่มแรงกระชากเข้าไปที่ผมของกานดาอย่างแรง จนเธอร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
และเสียงร้องของผู้เป็นแม่ ทำให้เด็กชายวัย9ขวบที่ชื่อท๊อป สะดุ้งตัวลุกจากที่นอน จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เปิดประตูไม้เก่าๆ ออกมาแอบดูเหตุการณ์ ตรงบันไดชั้นสองของบ้าน
‘อย่าเสียงดังไปเลยนะพี่ จะทำอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าเสียงดัง ฉันไม่อยากให้ท๊อปตื่นขึ้นมาเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ลูกยังเด็ก ฉันไม่อยากให้แกรับรู้เรื่องบ้าๆ แบบนี้’ กานดาพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ศักดิ์ชัย ด้วยร่างกายที่สั่นเทา
‘มึงพูดเองนะอีกานดาว่า กูจะทำอะไรมึงก็ได้ งั้นมึงเจอกูแน่’ พูดจบศักดิ์ชัยก็ปล่อยผมของกานดาออก จากนั้นเขาก็ง้างมือจนสุด แล้วตบเข้าที่หน้าของกานดาอย่างแรง จนเธอเซถลาล้มลงไปกับพื้น
เพี๊ยะ!
โอ๊ย!
‘พี่ศักดิ์ ฮือ ฮือ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ กานดาเจ็บ ทำไมพี่ถึงใจร้ายแบบนี้ด้วย ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม?’ กานดาที่ล้มนอนไปกับพื้น เธอใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปาก จากนั้นก็หันมาพูดกับศักดิ์ชัยด้วยแววตาตัดพ้อ
‘กูชอบแบบนี้ไง เวลากูเอากับมึง มันเร้าใจกูดี’ พูดจบศักดิ์ชัยก็ตรงไปคร่อมร่างของกานดาไว้ พร้อมกับใช้มือใหญ่ของเขากระชากไปที่เสื้อของกานดาจนขาด เผยให้เห็นหน้าอกที่ล้นออกมาจากบราลายลูกไม้สีดำ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังใช้มือทั้งสองข้างของตัวเอง ตรงไปบีบคอของกานดาจนเธอเริ่มจะหายใจไม่ออก และดิ้นทุรนทุรายไปกับพื้น
แค่ก! แค่ก! แค่ก!
‘ปะ ปล่อยนะพี่ศักดิ์ กานดาจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว’ กานดาพยายามจะแกะมือของศักดิ์ชัย ออกจากคอของตัวเอง แต่ก็ยังไม่เป็นผล เพราะเขาใช้มือบีบคอของเธอจนแน่น
แต่ระหว่างที่เธอกำลังแกะมือของศักดิ์อยู่นั้น หางตาก็เหลือบไปเห็นเด็กวัย9ขวบ เดินถือมีดปลายแหลมเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน
เธอพยายามจะตะโกนห้ามลูกชายของเธอ ที่กำลังจะง้างมีดในมือแทงศักดิ์ชัยจากด้านหลัง แต่กระนั้นเสียงของเธอก็ไม่ได้ออกมาจากลำคอ เพราะตอนนี้เธอก็โดนบีบคอ จนเกือบจะขาดอากาศหายใจ จึงไม่สามารถส่งเสียงห้ามลูกชายของเธอได้
ฉึก!
อัก!
‘มึงกล้าทำร้ายกูเหรอไอ้เด็กเวร’ ศักดิ์ชัยปล่อยมือออกจากคอของกานดา จากนั้นเขาก็ยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวมาหาเด็กชาย แล้วใช้มือตบเข้าไปที่ใบหน้าของเด็กชายวัย9ขวบอย่างแรง จนเขากระเด็นไปติดผนังไม้เก่าๆ ภายในบ้าน
‘ท๊อปเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ฮือฮือ พี่ศักดิ์อย่าทำอะไรลูกเลย ลูกคงไม่ได้ตั้งใจ’ กานดาพูดขณะที่พยายามจะยันตัวไปหาลูกน้อยของเธอ แต่ก็ต้องล้มลงอีกครั้ง เพราะร่างกายของเธอบอบช้ำเกินไป
‘ไม่ได้ตั้งใจเหี้ยอะไร ไม่ได้ตั้งใจเลือดกูจะไหลออกมาเยอะขนาดนี้เหรอ?’ ศักดิ์ชัยใช้มือดึงมีดที่เสียบอยู่ด้านหลังของเขาออก จากนั้นเขาก็ถือมีดตรงไปยังเด็กชายตัวเล็ก ที่นอนงอตัวอยู่กับพื้น
‘………….’ ท็อปเด็กชายตัวเล็ก ที่เมื่อเห็นศักดิ์ชัยเดินถือมีดตรงเข้ามาหา เขาก็กระเสือกกระสน ใช้เท้าดันไปกับพื้นไม้ เพื่อจะหนีจากเงื้อมือของศักดิ์ชัย
แต่กระนั้นมันก็ไม่ทันอยู่ดี เพราะศักดิ์ชัยได้จับเข้าที่ขาของเด็กชายตัวเล็กนั้นไว้ แล้วดึงเข้ามาหาตัว ก่อนจะง้างมือจนสุด จากนั้น….
กริ๊ง!........
เฮือก!.....
ผมสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝัน เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์กรีดร้อง อยู่ใกล้ๆกับตัวของผม ไม่รอช้าผมรีบใช้มือควานหา จากนั้นก็รีบหยิบขึ้นมาดูรายชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอ ปรากฏว่าคนที่โทรมาก็คือแม่ของผม และไม่รอช้าผมจึงรีบกดรับสายทันที
ติ๊ด….
“ครับแม่ โทรมาหาผมแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่า?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่นนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งน้ำเสียงแบบนี้ผมจะพูดเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น
“ (แม่อยากจะชวนท๊อปมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ทำของโปรดเอาไว้ให้เยอะเลย แต่ถ้าท๊อปงานยุ่งก็ไม่เป็นไรนะลูก แม่เข้าใจ) ” ผมอมยิ้มให้กับคำพูดของแม่ตัวเอง ที่บอกว่าเข้าใจแต่จริงๆแล้วแม่ของผมน่ะ ไม่เข้าใจอย่างที่ปากพูดหรอกครับ นี่ก็คงจะแอบน้อยใจที่ผมไม่ได้เข้าไปหาที่บ้านเลยในช่วงที่ผ่านมา
“เดี๋ยวเที่ยงผมเข้าไปหาแม่ที่บ้านแน่นอนครับ ไม่น้อยใจนะครับแม่” ผมยันตัวไปนั่งพิงกับหัวเตียงพร้อมกับพูดตอบตกลงแม่ไป ขืนถ้าผมไม่ไปกินข้าวเที่ยงกับแม่วันนี้ ต้องเจองอนหนักแน่ เพราะท่านก็โทรมาชวนผมหลายครั้งแล้ว แต่ช่วงนั้นผมกำลังยุ่งเกี่ยวกับเปิดสนามแข่งรถใหม่ของผมอยู่ กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาพอสมควร
“ (แม่จะรอนะ ว่าแต่ตอนนี้ลูกอยู่ที่บ้านหรือเปล่า?) ”
“ครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้าน แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ (พอดีแม่จะฝากท๊อปซื้อขนมร้านโปรดของแม่น่ะ ท๊อปซื้อให้แม่หน่อยได้ไหมลูก?) ”
“ได้ครับ เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”
“ (ไม่แล้วลูก แม่วางสายก่อนนะ ขับรถดีๆ นะลูก) ” แล้วสายของแม่ก็ถูกตัดไป ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิด เมื่อนึกถึงความฝัน ถ้าแม่ไม่โทรมาซะก่อน ผมคงจมอยู่กับความฝันที่โหดร้าย ในวัยเด็กพวกนั้นอีกนาน มันเป็นเหตุการณ์เลวร้าย ที่ทำให้ผมเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ซึ่งมันทำให้ผมเป็นปกติเหมือนคนอื่นไม่ได้
คิดแล้วก็เครียด ผมนั่งถอนหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นไม่นานผมก็ลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าไปในห้องน้ำ หวังว่าน้ำเย็นๆจะช่วงให้ผมสดชื่น และหลุดจากความเครียดไปได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"