เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
บทที่ 1
ท้องไม่มีพ่อ
ท่ามกลางสติสัมปชัญญะที่ลางเลือน เธอรู้สึกเจ็บตรงกลางระหว่างขา...เจ็บจนน้ำตาไหล แต่พอสักพักความเจ็บก็หายไป กลายเป็นความรัญจวนซ่านเสียว เสียงลมหายใจถี่กระชั้นประสานกันระหว่างเธอกับผู้ชายคนนี้...คนที่มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง เขากำลังขยับร่างกายอยู่บนตัวเธอ เป็นจังหวะที่ทั้งหนักหน่วงและรุนแรง
เธอพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมองเขา แต่กลับมองไม่ชัดเพราะไฟที่ปิดสนิท เธอมองไม่เห็นเขาเลย ครั้นนึกไปถึงช่วงก่อนที่จะเข้ามาในโรงแรมหรู เธอก็จำผู้ชายที่มาดื่มกับเธอไม่ได้ หน้าตาเขาเป็นยังไงนะ... สิ่งที่อยู่ในสำนึกเธอคือ...เขาเป็นคนที่หล่อมาก เธอรู้แค่นั้นเอง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไฟเสน่หาถูกจุดให้ตื่น จวบจนตี 4 ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง เขาผละเข้าห้องน้ำ ในขณะที่เธอนอนหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะสะดุ้ง เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เธอควานมือคว้ามือถือมากดรับสาย
“ค่ะ...อะไรนะคะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” เธอพูดเสียงสั่น ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุโดนรถชน !
เธอรีบลุกใส่เสื้อผ้า หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัว...กลัวว่าจะสูญเสียแม่อันเป็นที่รักไป
เธอหันมองไปทางประตูห้องน้ำ...ผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องน้ำ คนที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ แถมยังจำหน้าไม่ได้อีก รู้แค่ว่าเขาหล่อเท่านั้น แม้บทรักเขาจะตรึงใจแค่ไหน แต่เขาก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญมาพบเจอและได้มอบประสบการณ์ระหว่างชายหญิงให้เธอเท่านั้น
ต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ
เธออาลัยอาวรณ์เล็กน้อย ก่อนจะตัดใจ เดินโซเซออกจากห้องโรงแรมสุดหรูไป โดยที่ร่างกายยังคงระบม เธอเดินเซเกือบล้มหลายครั้ง พนักงานโรงแรมเข้ามาประคองแล้วช่วยเรียกแท็กซี่ให้
เป็นครั้งแรกที่เธอเมาจนสูญเสียความเป็นตัวเองได้มากขนาดนี้
เธอรีบไปโรงพยาบาล ผู้เป็นแม่ยังอยู่ห้องไอซียู ยังให้เข้าเยี่ยมไม่ได้ เธอจึงนอนที่เก้าอี้ยาวหน้าห้องผู้ป่วยหนัก วูบหลับไปด้วยฤทธิ์น้ำเมาและความอ่อนเพลีย มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ในตอนสาย พยาบาลออกมาตามเธอ
“ญาติคุณมะลิคะ รีบเข้าไปพูดคุยกับคนไข้เป็นครั้งสุดท้ายเถอะค่ะ”
ร่างบางลุกพรวด เธอหายมึนเมาแล้ว แต่ปวดหัวตุบๆ รีบลุกไปสวมชุดปลอดเชื้อ ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วเข้าไปในห้อง เธอกลัว...กลัวจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
คำว่า ‘คุยเป็นครั้งสุดท้าย’ มันหมายความว่าแม่ของเธอไม่มีโอกาสรอดชีวิตอย่างนั้นหรือ
กระบอกตาร้อนผ่าว สองมือกำแน่น เมื่อมายืนอยู่ข้างเตียงที่แม่นอนอยู่ ข้างกายแม่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิต เครื่องวัดออกซิเจนขึ้นเลข 50 ถือว่าอาการแย่มากเลยทีเดียว
“แม่จ๋า แม่อย่าเป็นอะไรนะ...”
มะลิมองลูกด้วยสายตาเป็นห่วง นางพูดอะไรไม่ได้เพราะที่ปากมีท่อช่วยหายใจคาอยู่ ทำได้เพียงค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวที่ซบอยู่ตรงอกเธอไปมาเบาๆ
และนั่นก็เป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่เธอมี สัญญาณชีพขึ้นขีดตรง ส่งเสียงเตือนบาดลึกถึงหูผู้ฟัง คุณหมอและพยาบาลพากันรุมล้อมมาดู ช่วยกันปั๊มหัวใจ เธอมองภาพเหล่านั้นอย่างตระหนกและเจ็บปวด ก่อนจะถอยออกมายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องอย่างเงียบๆ
ประมาณ 40 นาทีต่อมา พยาบาลก็ออกมาแจ้งด้วยสีหน้าสลด
“ทางคุณหมอพยายามปั๊มหัวใจเป็นเวลา 30 นาทีแล้วค่ะ แต่สัญญาณชีพไม่ตอบสนองเลย ทางเราขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ”
มนตกานต์เบิกตาโพลง ก่อนปล่อยโฮสุดเสียง... วันนี้นับเป็นวันที่เธอได้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นับจากนี้ไป เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพังแล้ว !
นับตั้งแต่วันที่สูญเสียแม่ไป ก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว มนตกานต์ทำงานอย่างขยันขันแข็ง แม้ว่าชีวิตจะโดดเดี่ยว และรู้สึกเหงาอยู่บ่อยครั้งก็ตาม เธอคิดว่าหากงานเยอะ ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ เธอจะเบาความคิดมากลงไปได้บ้าง
เธอมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นของตัวเอง หากเป็นเมื่อก่อน แม่จะเป็นคนทำอาหาร ส่วนเธอจะเป็นลูกมือ คอยเสิร์ฟและล้างจาน แต่ปัจจุบันเธอต้องทำทุกอย่างเองเพียงคนเดียว
รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือวันละประมาณ 500 – 600 บาท พอเอาตัวรอดไปได้โดยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นัก
แต่ทว่าช่วงระยะเวลา 3 – 4 วันมานี้ เธอเริ่มมีอาการผิดปกติ เธอคลื่นไส้ และเวียนหัวอยู่บ่อยๆ จึงตัดสินใจไปหาหมอ
คำวินิจฉัยของคุณหมอช่างน่าตกใจ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์ค่ะ”
เธอนึกว่าตัวเองหูฝาดไปด้วยซ้ำ “เอ่อ...ดูผิดไปหรือเปล่าคะคุณหมอ ฉันนี่นะท้อง” เธอจะท้องได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอยังไม่ได้แต่งงาน เอ๊ะ หรือว่า...เป็นเพราะคืนนั้น....
ใช่แล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน เธอโดนแฟนทิ้ง แถมโดนดูถูกว่าเธอมันจืดชืดไร้เสน่ห์ ไม่มีทางที่จะมีผู้ชายคนไหนต้องการได้ เธอแค้นใจจนไปเที่ยวกลางคืนเป็นครั้งแรก และก็ดื่มจนเมา ช่วงที่เริ่มเมาก็มีผู้ชายหล่อๆ เข้ามาทักและดื่มไปด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นสติสัมปชัญญะของเธอไม่เต็มร้อย เธอจึงจำหน้าเขาไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาหน้าตาดีเท่านั้น
เขาพาเธอไปพักที่โรงแรม จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปตามธรรมชาติ เธอได้เรียนรู้สัมผัสระหว่างชายหญิงเป็นครั้งแรก ซึ่งในคืนนั้น เธอรู้ข่าวว่าแม่โดนรถชนเพราะออกไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ตี 4 เธอรีบออกจากโรงแรมไปโรงพยาบาล เสียใจเรื่องแม่ วุ่นวายกับการจัดงานศพ พ้นงานขาวดำแล้วก็ต้องมาทำงานหาเงินงกๆ อีก จนเกือบจะลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีประสบการณ์สุดพิเศษกับคนแปลกหน้า
เพราะชีวิตที่วุ่นวายเกินไปจนลืมที่จะกินยาคุมฉุกเฉิน
เธอพลาดไปแล้วจริงๆ !
“ท้องแน่นอนค่ะ ตรวจปัสสาวะขึ้น 2 ขีดเข้มๆ แบบนี้ เอาล่ะ เดี๋ยวขึ้นนอนบนเตียงหน่อยนะคะ หมอจะอัลตร้าซาวด์ท้องให้”
“ค่ะ” เธอขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยความคิดที่วุ่นวายและสับสน คุณหมอวัยกลางคน ลุกมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง เลิกเสื้อเธอขึ้น ทาเจลลงไป ก่อนใช้เครื่องมือถูๆ ไปมาที่ท้อง
“เจอถุงตั้งครรภ์แล้วค่ะ มีหัวใจแล้วนะคะ โอ๊ะ...มีหัวใจสองดวงค่ะ ดีใจด้วยนะคะ คุณได้ลูกแฝดค่ะ”
มนตกานต์มึนตึ้บ แค่รู้ว่าท้องก็มึนพอแล้ว ยังมาได้ลูกแฝดอีก นั่นแหมายความว่ามี 2 ชีวิตอยู่ในท้องของเธองั้นสินะ
“ลูกแฝดเลยหรือคะ”
“ใช่ค่ะ ส่วนเพศคงต้องรออีกสองสามเดือนนะคะถึงจะรู้ ตอนนี้อายุครรภ์เพิ่งจะประมาณสองเดือนเอง เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปกินนะ”
“ค่ะคุณหมอ” เธอรับคำเสียงอ่อน ตอนนี้...เธอรู้สึกอยากร้องไห้เหลือเกิน
มนตกานต์กลับมาที่บ้าน เธอไม่ได้เปิดร้านในวันนี้ อยากอยู่เงียบๆสักพัก เพื่อจัดการความคิดของตัวเอง เธอนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือลูบท้องที่ยังแบนราบ
ความประมาททำให้เธอพลาด...
แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเด็กสองคนนี้คือของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้เธอ
ต่อไปนี้เธอจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว...
หญิงสาวยิ้มบางๆ เธอจะไม่ทำลายลูก แต่จะปกป้องและเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด
การที่ได้เป็นแม่คน ทำให้เธอมีเป้าหมายชีวิต และจะพยายามทำทุกทางเพื่อให้อนาคตของลูกดีที่สุด
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
เธอได้รับมอบหมายให้สัมภาษณ์นักธุรกิจชื่อดัง แต่ไม่นึกเลยว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอ...จะทำให้เธอสูญเสียพรหมจรรย์ไป เขามีเงิน มีอำนาจ และมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เป็นผู้ชายที่เธอควรหลีกหนีให้ไกลที่สุด เธอตั้งใจจะลืมเรื่องคืนนั้นแล้วใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทว่า...เช้ามา เธอก็ตกงาน จากนั้นก็โดนนักเลงมาข่มขู่คุกคาม แถมยังโดนเจ้าของห้องเช่าไล่ออกอีกต่างหาก เธอมั่นใจว่าคนที่หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอก็คือคู่หมั้นของนนทิวรรธน์ ที่เธอต้องมาซวยก็เพราะผู้ชายคนนี้คนเดียว !! เธอบุกไปบ้านเขาเพื่อทวงความยุติธรรม เพื่อให้เขามอบความปลอดภัยให้เธอ แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจากกลายเป็นเมียลับของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ สถานะเมียลับที่อยู่ในความคุ้มครองของเขา ได้เงินทองมากมาย ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ไม่เคยได้รับความรัก และในวันที่เขาจะแต่งงาน คือวันเดียวกับที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ และที่สำคัญสุดคือ...หัวใจทั้งดวงของเธอเป็นของเขาไปแล้ว ซ้ำร้าย…เธอมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดเขาเพียง 1 เดือน ก็โดนเขาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เธอต้องเก็บเสื้อผ้าออกมาจากชีวิตด้วยความรู้สึกที่ย่ำแย่...ทิ้งสถานะเมียลับให้เป็นเพียงความทรงจำ พร้อมกับฝังความลับเรื่องการตั้งครรภ์ไม่ให้ล่วงรู้ถึงหูเขา 2 ปีต่อมา เธอได้พบกับอดีตสามีอีกครั้ง ในฐานะเลขาชั่วคราวกับท่านประธานบริษัท ความลับเรื่องลูก...เขายังไม่รู้ และจะไม่มีวันได้รู้เด็ดขาด แต่ใครจะนึกล่ะว่าความลับไม่มีในโลก !
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...