ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / มายาทมิฬ
มายาทมิฬ

มายาทมิฬ

5.0
67 บท
31.5K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เมื่ออิสรภาพถูกริดรอนด้วยอำนาจแห่งขัตติยา เงินตราถูกนำมาต่อรองซื้อศักดิ์ศรีชาย ทวิภาคจึงเลือกใช้ความเย็นชาเข้าฟาดใส่ ตอบโต้ทุกวิถีทางอย่างซาตานไร้หัวใจ ราชาวดีจึงเป็นได้แค่เพียงเจ้าสาวที่แสนชัง… คำโปรยปกหลัง : กฎมณเทียรบาล... สตรีไม่มีสิทธิ์ขึ้นครองบัลลังก์ ราชาวดี … ไม่มีทางเลือกจำต้องใช้อำนาจทุกอย่างบีบบังคับให้ทวิภาคชายที่ตนหลงรักแต่เขาหาได้รักหล่อนไม่ มาเป็นพระสวามี เพื่อโค่นล้างแผนการร้ายของเจ้าสมถวิลพระอนุชาของบิดาตนเอง ทวิภาค... ชายหนุ่มผู้หยิ่ง ผยอง ในศักดิ์ศรีของตนเอง ต่อต้านทุกทางเพื่อให้ตนเองหลุดจากบ่วงร้ายในครั้งนี้ แต่เมื่อถูกใช้ชีวิตของคนสนิทมาต่อรอง เขาจึงไม่มีทางเลือก เมื่อห้องหอกลายเป็นสมรภูมิรบ น้ำผึ้งพระจันทร์ที่ควรจะหวานกลายเป็นรสขมทรมาน ความไร้หัวใจ แข็งกร้าวถูกขว้างใส่หน้าแทบทุกวินาที และสุดท้ายเขาก็จากไป... พร้อมกับหยิบยื่นตำแหน่งเจ้าหญิงไร้บัลลังก์ใส่มือให้กับหล่อนอย่างเลือดเย็น...

บทที่ 1 ตอนที่ 1

พระราชวังสีทองอร่ามที่เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ทำให้ทวิภาคถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ มันกว้างใหญ่ไพศาลหาใครเทียม แถมอาณาเขตโดยรอบเกือบทั้งหมดยังเป็นภูเขาซะส่วนใหญ่ และอานิสงส์ของผืนป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้เขียวขจีก็ทำให้ความรู้สึกขุ่นเคืองใจหายไปหมดสิ้น เหลือไว้แต่ความร่มเย็นผ่อนคลาย

ชายหนุ่มไม่อาจจะบรรยายสิ่งที่เห็นออกมาเป็นคำพูดได้เลยว่ามันงดงามมากเพียงใด เพราะคำใดๆ ในโลกนี้คงเทียบกับความประณีตวิจิตรบรรจงที่ได้พบเห็นไม่ได้อีกแล้ว

“เชิญคุณทางนี้ค่ะ”

เสียงใสๆ ของนางกำนัลในชุดคล้ายๆ กับชาวไทยวน คาดอกด้วยผ้าสีน้ำเงินเข้ม ไหล่เปลือยถูกคลุมทับด้วยผ้าคลุมสีฟ้าอ่อน และสวมผ้าซิ่นสีพื้น ขณะที่ทรงผมถูกเกล้ามวยไว้กลางศีรษะมีดอกเอื้องแซมพองาม ช่วยกระชากเขาให้ออกจากความงดงามตรงหน้า

ชายหนุ่มได้สติ รีบเดินตามนางกำนัลเข้าไปในพระราชวังโอ่อ่านั้นอย่างรวดเร็ว แต่ระหว่างที่ก้าวเดินก็ยังอดสอดส่ายสายตาไปรอบๆ วังนี้ไม่ได้ และก็ได้เห็นผู้ชายวัยฉกรรจ์เปลือยอก นุ่งผ้าฝ้ายสีน้ำเงินสีเดียวกับผ้าคาดอกของนางกำนัลที่เดินอยู่เบื้องหน้า มีผ้าสีขาวคาดที่หน้าผาก มือถือดาบเดินเป็นแถวไปมาเป็นระเบียบ

นี่คงเป็นลักษณะการแต่งกายของคนในวังเชียงรุ้งล่ะมั้ง ทวิภาคคิดอยู่ภายในใจ เดินตามไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงห้องหนึ่งที่ถูกตกแต่งไว้อย่างวิจิตรงามตา บานประตูไม้ถูกแกะสลักด้วยลวดลายโบราณ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลายที่เป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนี้ เพราะเขาเห็นลายนี้มาเกือบตลอดทางที่เดินผ่านมา

“เชิญคุณพักผ่อนตามสบาย ขาดเหลืออะไรให้บอกข้าน้อยได้ ข้าน้อยจะรีบจัดหามาให้...”

หญิงสาวคนนั้นพูดเสียงอ่อนหวาน ก้มหน้าให้ด้วยความเคารพ ก่อนจะค่อยๆ ถอยออกไปจากจุดที่เขายืนอยู่

ทวิภาคสำรวจภายในห้องพักของตนเองช้าๆ แล้วก็อดทึ่งไม่ได้ ห้องนี้กว้างขว้าง แถมถูกตกแต่งไว้อย่างงดงาม อ่อนช้อย ให้ความรู้สึกเหมือนกับหลงเข้าไปอยู่ในยุคของพวกไทลื้อไทยวนโบราณ แต่ในขณะเดียวกันเชียงรุ้งก็มีลักษณะเด่นของตัวเองไม่น้อย

“ฉันไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว เธอออกไปเถอะ”

“เพคะ...”

นางกำนัลรับคำเสียงอ่อนหวาน ย่อตัวลงถอนสายบัวให้อย่างเคารพ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนย้ายตัวเองออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ

ทวิภาควางกระเป๋าเดินทางของตนเองลงกับพื้น ขณะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้แกะสลักที่ตั้งอยู่ใกล้กับระเบียงที่ยื่นออกไปจากตัวห้อง สายตาคมกล้าจ้องมองผ่านระเบียงไม้ไปยังสวนสวยที่ถูกตัดแต่งอย่างดีด้วยความประณีต น้ำพุเล็กๆ ให้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก ขณะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ช้าๆ ดวงตาเคลิ้บฝัน ลืมเรื่องทุกข์ร้อนไปจนหมดสิ้น ลืมไปแม้กระทั่งว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม และมาเพื่อใคร

ดวงตาคมกล้าค่อยๆ ปรือลงคล้ายกับกำลังถูกถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่หลายก้อน และในที่สุดจิตของทวิภาคก็หลุดหลงเข้าไปสู่ภวังค์อันแสนสุข ผ่อนคลายที่สุดในชีวิต

“เขาชอบห้องที่หญิงเลือกให้หรือเปล่ามาลา...”

เสียงสดใสที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นร้องถามนางกำนัลที่ตนส่งให้ไปรับทวิภาคที่หน้าวังไปส่งที่ห้องพักทันทีเมื่อเห็นเดินเข้ามา

“ข้าน้อยดูเขาไม่ออกจริงๆ เพคะ เขาไม่พูดอะไร หน้าตาก็เรียบเฉย มองนู่นมองนั่นไปทั่วเพคะ” มาลาเอ่ยเสียงอ่อนหวาน ซึ่งเป็นลักษณะการพูดกันของคนในวังนี้

หญิงสาวสูงศักดิ์ในชุดเครื่องแต่งกายที่มีผ้าคาดอกสีแดงพันรอบอกสาวขาวผ่องเอาไว้ คลุมทับด้วยผ้าคลุมไหล่สีชมพูอ่อนปักดิ้นทอง และสวมผ้าซิ่นไหมยกดอกลำพูน ซึ่งผ้าซิ่นชนิดนี้จะทอไว้เฉพาะเจ้านายผู้สูงศักดิ์แห่งเมืองนี้เท่านั้น ขณะที่เส้นผมสีดำขลับถูกเกล้าเป็นมวยไว้กลางศีรษะ ปักด้วยดอกไม้ไหวงดงาม อ่อนช้อย เดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนใจ

“อย่างนั้นหรือ... หญิงกลัวว่าเขาจะไม่ถูกใจจังเลยรสา”

ราชาวดีพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวของพระราชาสุขเกษมกับเจ้านางดารารัศมี หันไปพูดกับรสาคนสนิทด้วยสีหน้าเป็นกังวล

หญิงสาวงดงามล้ำเกินหญิงใดในแว่นแคว้นนี้ ความงามเลื่องลือระบือไกล เจ้าชายจากแคว้นต่างเมืองมาเจริญสัมพันธไมตรีด้วย แต่ก็ถูกองค์หญิงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี เพราะในพระหทัยของราชาวดีแล้ว หล่อนผูกใจรักใคร่อยู่กับหนุ่มไทยนามว่า ‘ทวิภาค’ เพียงคนเดียว

“อย่าทรงคิดมากเลยเพคะองค์หญิง ผู้ชายคนนั้นจะต้องพอใจกับสิ่งที่องค์หญิงได้เตรียมไว้ให้อย่างแน่นอน เชื่อรสานะเพคะ”

ราชาวดีไม่ได้ตรัสออกมา แต่เดินไปเกาะขอบหน้าต่าง ชะเง้อมองไปยังตำหนักที่ตนเลือกให้กับทวิภาคตาละห้อย

อยากให้เขาพอใจจังเลย... สาวน้อยสูงศักดิ์รำพึงรำพันอยู่ภายในใจ

อุตส่าห์จัดห้องพักให้ตรงข้ามกัน เพื่อที่จะได้แอบมองยามที่เขาเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียงห้อง คิดว่าเขาจะชอบ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทวิภาคไม่เอ่ยชม แถมยังไม่พูดอะไรทั้งนั้น

องค์หญิงสาวถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะหันมามองคนสนิท

“รสาจ๊ะ แล้วเย็นนี้หญิงจะทำยังไงดี เขาต้องมาทานข้าวกับหญิงในห้องอาหาร หญิงกลัวเขาโกรธจังเลย กลัวเขาจะมองหญิงไม่ดี... แต่หญิงอยากเจอเขา...”

รสามองเด็กสาวที่ตนเลี้ยงมากับมือด้วยความเห็นใจ ราชาวดีมอบใจให้กับทวิภาคมาตั้งแต่ตอนที่พ่อหนุ่มคนนั้นช่วยเหลือหล่อนครั้งที่ถูกลอบทำร้ายในเมืองไทย และตั้งแต่นั้นมาดวงตาขององค์หญิงผู้งดงามก็ไม่เคยมองใคร

“ถ้ายังไม่พร้อม เราก็เลื่อนการเผชิญหน้าออกไปก่อนดีไหมเพคะ องค์หญิงจะได้มีเวลาเตรียมใจ จะได้ไม่ทรงกังวล”

คำแนะนำของรสาก็ดีอยู่หรอก แต่มันเสียอยู่นิดเดียวก็คือ หล่อนจะไม่ได้เห็นหน้าทวิภาคอย่างที่ใจต้องการน่ะสิ

ไม่ได้ต้องคิดหาทางออก... คิดๆ ๆ ๆ คิดให้ออกนะราชาวดี หญิงสาวร้องสั่งตัวเองอยู่ภายในใจ เดินกลับไปกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า นานทีเดียว... ก่อนที่เจ้าหญิงคนงามจะฉีกยิ้ม และดีดนิ้วอย่างถูกใจออกมา

“หญิงคิดออกแล้ว...”

“องค์หญิงจะทำยังไงหรือเพคะ”

มาลาบังอาจถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้ แต่ก็ถูกรสามองตาดุๆ จนต้องก้มหน้ามองพื้น มาลีผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะเบาๆ

“หญิงจะปลอมตัวเป็นมาลี แล้วให้มาลีมาเป็นหญิงแทน...”

“ไม่ได้นะเพคะ”

รสาร้องลั่น พอๆ กับมาลีที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับความคิดแผลงๆ ของเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ยืนทำหน้าตาจริงจังอยู่ตรงหน้า

“ได้สิจ๊ะรสา หญิงจะเป็นนางกำนัลไปดูแลเขาเอง...” ราชาวดียิ้มกริ่มกับความคิดที่ตัวเองคิดว่าเข้าท่าที่สุดของตนเอง

“ถ้าพระราชากับพระมเหสีทรงทราบเข้ามีหวังทั้งข้าน้อย ทั้งมาลีได้ถูกประหารชีวิตเจ็ดชั่วโคตรแน่ๆ เลยเพคะ” รสาพยายามอธิบาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่ออาญาบ้านเมือง

ราชาวดีเดินเข้ามาโอบกอดรสาอย่างประจบประแจง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานเชื่อม จนคนแก่อย่างรสาอดใจอ่อนไม่ได้

“เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ไม่อยู่สักหน่อย อีกตั้งเป็นอาทิตย์กว่าจะเสด็จกลับ น่านะ...รสา หญิงขอแค่ไม่กี่วันเอง ส่วนมาลีก็ให้แต่งเป็นหญิงยามที่ทวิภาคต้องการพบองค์หญิงราชาวดีแค่นั้นเอง ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า เชื่อหญิงนะจ๊ะ...”

“แต่มาลีกลัวอาญาเพคะ เปลี่ยนเป็นมาลาไม่ได้หรือเพคะ” มาลีรีบโยนให้กับมาลา จนถูกเพื่อนตีแขนเบาๆ อย่างไม่ยอมเช่นกัน

“อย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยสิ มาลี...”

ราชาวดีระบายยิ้ม “ทวิภาคเห็นมาลาแล้วนี่จ๊ะ มาลีนั่นแหละเหมาะที่สุด นะถือว่าช่วยหญิงก็แล้วกัน นะจ๊ะ...” ยามที่เจ้าหญิงทรงออดอ้อนแบบนี้ทีไรไม่มีใครใจแข็งกับนางได้แม้แต่คนเดียว

มาลีสาวน้อยหน้าแป้นขาวเนียนนัยน์ตาเรียวเล็กจำต้องก้มหน้ารับคำบัญชาขององค์หญิงราชาวดีด้วยภาวะจำยอม

“องค์หญิงไม่ทรงมอบทางเลือกให้ข้าน้อยเลยนี่เพคะ”

“ขอบใจมาลีมากจ้ะ งั้นมาลีช่วยไปหาชุดนางกำนัลใหม่ๆ มาให้หญิงสักสองสามชุดนะจ๊ะ หญิงจะไปหาเขาในคราบนางกำนัลวันนี้เลย...”

“เพคะ องค์หญิง” มาลีก้มตัวถอนสายบัวงดงาม ก่อนจะรีบไปทำตามคำสั่งของเจ้านายทันที

รสามองตามร่างเล็กของมาลีไปจนสุดตา ก่อนจะหันมามองเจ้าหญิงน้อยของตน และพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง

“รสาคิดว่ามันจะไม่งามนะเพคะ หากองค์หญิงจะไปใกล้ชิดกับบุรุษต่างชนชาติแบบนั้น รสาขอตามเสด็จไปด้วยดีกว่า...”

“นี่รสาไม่ไว้ใจหญิงหรือจ๊ะ รสาเลี้ยงหญิงมากับมือน่าจะรู้จักนิสัยหญิงมากกว่าใคร...”

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตัดพ้อ ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาวสีดำขลับล้อมรอบอยู่มีน้ำตาเอ่อคลอ รสาเห็นแล้วก็ถอนใจออกมาหนักๆ เพราะเจ้าหญิงน้อยของตนใช้วิธีนี้อีกแล้ว

“ก็ได้เพคะ รสาจะเชื่อใจองค์หญิง แต่รสาไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้นเลย ตอนเจอที่เมืองไทยคราวนั้นก็แทบจะเสวยพระเศียรขององค์หญิงเข้าไปทางปากอยู่แล้ว...”

หญิงสาวสูงศักดิ์ระบายยิ้ม ตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ “แหม รสาก็พูดเกินไป เขาคงโมโหที่หญิงไปขวางรถเขานั่นแหละ รสาอย่าอคตินักสิ นะนะ...” ออดอ้อนอ่อนหวาน แถมหอมซ้ายหอมขวาแบบนี้ มีหรือรสาจะไม่ใจอ่อน เพราะในที่สุดก็พยักหน้า

“รสาเคยขัดพระทัยขององค์หญิงได้ที่ไหนกันล่ะเพคะ”

ราชาวดียิ้มกว้าง พลางกอดคนสนิทแน่น “ขอบใจรสามากจ้ะ หญิงรักรสาที่สุดเลย...” รสาได้แต่แอบถอดถอนใจกับความแก่นแก้วของเจ้าหญิงน้อยของตนเองอยู่เพียงลำพังในอก

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY