แม้นมีศักดิ์เป็นราชกุมาร หากแต่ไม่ได้เป็นยุพราชแล้วจะมีความหมายอันใดกัน... เมื่อคิดเห็นเป็นเช่นนั้น ‘วิรัลย์’ ราชกุมารผู้ถูกลืมแห่งแคว้นเวรุฬาจึงหมายทำการใหญ่ ขันอาสาพระราชบิดานำทัพต่อกรกับแคว้นอริราชย์เพื่อสร้างความดีความชอบ แต่ยักษ์ป่าหรือจะสู้จอมอสุราจากแคว้นปรมะอันยิ่งใหญ่ ศึกครั้งนั้น วิรัลย์จำต้องปราชัยให้แก่ ‘ไอศูรย์’ ผู้ซึ่งเป็นจอมทัพผู้เกรียงไกร และรอดพ้นการถูกสังหารด้วยถูกผู้มีชัยร้องขอตนเป็น ‘ของรางวัล’ ยักษาผู้มีรูปโฉมงดงามผ่องแผ้วช่างต้องใจไอศูรย์ยิ่งนัก ทุกทิวาวนเวียนเกี้ยวพาราสี ทุกราตรีก้าวย่องเข้าหาถึงตำหนัก ทว่าก็ไม่มีครั้งใดเลยที่วิรัลย์จะยอมตกเป็นของจอมทัพอสุรา หากใช้กำลังบังคับขืน วิรัลย์คงไม่รอช้าปลิดชีพตนทิ้งด้วยอับอาย ถ้าเช่นนั้น...จะต้องใช้เล่ห์กลใดกันถึงจะล่อลวงให้เจ้าชายราพณาสูรจากพนาลีติดบ่วงบาศแห่งเสน่หาของจอมทัพอสุราให้ยอมมอบทั้งกายและใจ? ศึกรบยังง่ายดายเสียกว่าศึกรักที่ไอศูรย์ถวิลหาเสียอีก... แรกพบสบพักตร์ ดวงจิตนึกรัก ยักษาน้องศรี เฉกวายุคลั่ง ป่วนดั่งนที รักพ่อคนดี ดุจแก้วอสุรา
เพราะคิดการใหญ่เกินตัว ชีวาจึงต้องถึงคราวบรรลัยด้วยมิอาจลุล่วงในหน้าที่...
เมื่อมิอาจสำเร็จสิ้นและกุมชัยชนะในสงครามระหว่างแว่นแคว้นยักษา ราชกุมารแห่งแคว้นเวรุฬาอันเป็นองค์เชลยถูกนำตัวออกจากห้องคุมขังมายังลานประหารหลังจากถูกขังไว้เป็นเวลากว่าเจ็ดทิวาเจ็ดราตรี คราแรกเขาถูกจองจำในฐานะองค์ประกัน เหตุนั้นเป็นเพราะเจ้าแคว้นแห่งปรมะนครคิดว่ายักษ์หนุ่มเป็นถึงราชกุมาร ต่อให้นำทัพพลาดท่าเสียที ไม่ว่าอย่างไรก็คงจะมีทัพกษัตริย์ยกพลมาให้การช่วยเหลือ ทว่า...ช่างน่าผิดหวังนัก นอกจากจะไร้ซึ่งทัพใดๆ ยกพลมา กษัตริย์ยักษาแห่งแคว้นเวรุฬายังแสร้งทำลืมสิ้นว่าตนนั้นมีราชบุตรผู้นี้เป็นหน่อเนื้อเชื้อไข
ในเมื่อการจับเป็นองค์ประกันเป็นการประวิงเวลาโดยเสียเปล่า กษัตริย์ปรมะนครอันเป็นแคว้นอริราชย์จึงไม่ใคร่ให้มีชีวิตอยู่ต่อเป็นหอกข้างแคร่ คำสั่งพิฆาตถูกบัญชาลงมา เมื่อนั้น...ยักษาหนุ่มจึงได้ถูกนำตัวออกจากที่คุมขัง
ข้อมือและข้อเท้าถูกตีตรวนด้วยโซ่โลหะเส้นใหญ่ เสียงดังครูดไปตามพื้นทำลายความเงียบงันรอบข้างตั้งแต่บริเวณคุกเชลยจนถึงลานประหาร
วิรัลย์ยักษาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนจะมาจบสิ้นชีวิตอย่างน่าอดสูเช่นนี้ การขันอาสาพระราชบิดามาออกรบนั้นก็เพื่อหมายจะสร้างคุณงามความดีและทำให้พระราชบิดาตระหนักรู้ว่ายังมีเขาเป็นราชบุตรอยู่อีกผู้หนึ่ง เพราะตั้งแต่ที่เขาถือกำเนิดมา พระราชบิดาก็ไม่เคยเหลียวแล หลงลืมไปเสียสิ้นว่ายังมีเขาสืบเชื้อสายกษัตริย์อยู่
แต่ความทะเยอทะยานของเขานั้นช่างเกินตัว ต่อให้เคยออกรบทัพจับศึกกับเหล่าจอมทัพผู้เก่งกาจมามากมายนับครั้งไม่ถ้วนเพียงไร เขาก็รับผิดชอบหน้าที่เพียงกระผีกเดียว กล่าวได้ว่าแทบไม่เคยลงสนามรบเสียด้วยซ้ำ นอกจากจะวางกลอุบายการรบกับเหล่าอำมาตย์ในฐานที่มั่นเท่านั้น
ผลที่เกิดขึ้นนี้ล้วนมาจากความทระนงตนของเขาทั้งสิ้น...
เมื่อมาถึงยังหลักประหารที่อยู่ในลานกว้าง วิรัลย์ก็ถูกบังคับให้คุกเข่าลงต่อหน้ากษัตริย์แห่งปรมะนครที่ประทับอยู่บนพลับพลา ทอดพระเนตรรอเพชฌฆาตสังหารยักษ์ตรงหน้าเสียให้สิ้น
ด้วยเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ต่อให้เป็นอริราชศัตรูก การประหารจึงมิอาจกระทำได้โดยการฟันคอให้ขาดในดาบเดียว ท่อนจันทน์1ถูกอัญเชิญมาเบื้องหน้า วิรัลย์ราชกุมารถูกปลดโซ่ตรวนและจับมัดมือไพล่หลัง ถุงผ้ากำมะหยี่สีแดงสดถูกนำมาคลุมศีรษะตลอดจนลำตัว โลหิตของเชื้อราชวงศ์มิอาจปล่อยให้ตกสู่พสุธา แต่นั่นจะสำคัญอย่างไรกัน ในเมื่อเพลานี้ จุดจบของเขาคือความตาย ก่อนเพชฌฆาตจะดึงทึ้งให้เขานอนลงไปบนเบาะขลิบดิ้นทอง
ดวงตาคมเหลือบมองไปยังเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย ไร้ซึ่งการวิงวอนขอชีวิต วิรัลย์รู้ดีว่าการถูกประหารด้วยท่อนจันทน์นั้นนับว่าเป็นการให้เกียรติอย่างสูงสุดของกษัตริย์แห่งปรมะนครแล้ว อีกทั้งการขอชีวิตตนนั้นเป็นการเสื่อมเสียเกียรติยิ่ง แม้ตัวต้องตาย แต่เขาก็จะไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกมาเพื่อประวิงเวลาให้ตนได้มีลมหายใจ
วิรัลย์สูดลมหายใจเข้าเสียเฮือกใหญ่ราวกับจะดื่มด่ำกับการมีชีวิตอยู่เป็นครั้งสุดท้าย พลันปิดเปลือกตาลง น้อมรับความตายที่ถูกมอบให้โดยศิโรราบ
หมดสิ้นแล้วซึ่งชีวี แต่มอดม้วยไปเสียก็ดี ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็เป็นเพียงราชกุมารที่ไม่มีผู้ใดต้องการ...
เขารำพึงในใจ ปล่อยวางทั้งหมดและปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามชะตากรรม
หากแต่ยังไม่ทันที่เพชฌฆาตจะได้เหวี่ยงท่อนจันทน์ลงมายังศีรษะ พลันก็ได้ยินเสียงแหบห้าวดังเข้ามาในโสตอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เสด็จอา... กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูล”
เสียงนั้นหยุดทุกการกระทำ ขณะที่กษัตริย์แห่งปรมะนครเหลือบพระเนตรมองคนตรงหน้า พยักพระพักตร์เล็กน้อยให้อีกฝ่ายได้กล่าวต่อ
เมื่อได้รับพระราชทานอนุญาต คนขัดเหตุการณ์ก็เปล่งวาจาออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“กระหม่อมใคร่จะทูลขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ราชกุมารแห่งเวรุฬาพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"