/0/4786/coverbig.jpg?v=cafedad332189ab41b083664223cdc61)
โนแอล ซิกแกทรีซ์ แพทย์ชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังอุษาคเนย์ในศตวรรษที่สิบเจ็ดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะแพทย์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอโยธยาจนกระทั่งเรื่องประหลาดเกิดขึ้นในพระนคร
โนแอล ซิกแกทรีซ์ แพทย์ชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังอุษาคเนย์ในศตวรรษที่สิบเจ็ดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะแพทย์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอโยธยาจนกระทั่งเรื่องประหลาดเกิดขึ้นในพระนคร
‘สำหรับไพ่ทาโรต์Death คนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันมีความหมายไม่ดีนักเพราะเกี่ยวข้องกับความตาย แต่ทว่าความหมายของมันนั้นสื่อถึงการสิ้นสุดบางอย่างโดยมีการเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง’
คำทำนายนี้แม้เขาจะไม่ได้เชื่อถือมันนักแต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาในตอนนี้อยู่ไม่น้อย หันมองไปยังอีกฟากสายน้ำที่ไหลอย่างสงบนิ่งนั้นพบกับเปลวเพลิงเผาไหม้บ้านเรือนผู้คนต่างแตกตื่นชุลมุนวุ่นวาย หมอดูผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมาพูดเรื่องนั้นก่อนที่ยมฑูตขี่ม้าบนไพ่จะปรากฏตัวมาต่อหน้าเขา
ภาพนหัวถูกตัดวูบไปเขาตื่นขึ้นมาบนพื้นหลังจากที่เผลอหลับไปกับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย มันเป็นความฝันที่ฝันซ้ำๆ มาตั้งแต่พบหมอดูไพ่ทาโรต์ที่ฝรั่งเศสครั้งล่าสุดซึ่งเขาไม่เคยเชื่อมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ตุบ!
“ฮ่าๆๆ พลาดท่าแล้ว” เสียงของเด็กน้อยคนหนึ่งแต่งชุดเปลือยท่อนบนแตกต่างจากเขาได้หยอกล้อกับเขาในตอนนั้นนำเอาแท่งไม้ในมือของตนแทงใส่เขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีทำให้หัวของเขาเหวี่ยงไปชนกับกองกระดานชนวนที่ถูกกระแทกจนล่วงตกลงมาบนพื้นบ้างหล่นลงมาโดนหัวเขาจนมึนไปหมด
ร่างสูงสมส่วนตามแบบฉบับของชาวตะวันตก ผิวสีขาวคล้ำและแห้งคล้ายว่าไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก เสื้อผ้านั้นแตกต่างจากเด็กน้อยที่เปลือยท่อนบนเพราะเขาสวมเสื้อผ้าแบบชาวตะวันตกที่แม้จะดูโทรมเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาหากแต่มีเค้าลางแห่งความเจ็บปวดอยู่บนนั้น รูปหน้ารีของเขาดูซูบผอมเล็กน้อยนัยน์ตาสีอำพันที่รับกับกรอบตาทรงอัลมอนด์ทำให้เขาเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่
“เกิดอะไรขึ้นรึ อ้ายจันทร์” เขาในตอนนี้มึนงงไปหมดเขาหันไปเห็นเด็กน้อยจึงพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงที่ไม่คล่องนัก
“น้าเธียรบอกให้มาปลุกหมอน่ะสิ คงมีเรื่องให้หมอช่วยอีก” จันทร์รีบพูดกับเขา
“น้าเธียร…อ้อ!” โนแอลพยายามที่จะนึกภาพของคนคนนั้นแต่ถึงอย่างไรความจำของเขาก็ไม่ได้ดีนักทั้งยังเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยอีกเขาเองก็มาอยู่ที่นี่ได้เพียงสัปดาห์เดียวเขาใช้เวลาหลายวินาทีจนอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นมา
โนแอลเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้วนึกออกทันทีผมสีดำของเขาถูกจัดอย่างดีหน้าตาเองก็ดีชนิดที่ว่าคงมีหญิงสาวติดพันมากนักร่างสูงคล้ายชาวตะวันตก เธียรเป็นบุตรชายของขุนนางในหมู่บ้านแห่งนี้โดยเจ้าตัวเองก็รับราชการเช่นกันเขาเองก็ไม่ได้รู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายดีเนื่องจากว่าตอนได้ยินชื่อตำแหน่งแล้วรู้สึกมึนหัวกับภาษาต่างถิ่นแต่อย่างไรเจ้าตัวก็ดูไม่ได้สนใจตำแหน่งและชอบมีเรื่องกับผู้อื่นแต่ลึกๆ แล้วเป็นคนดีและเพราะพูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้างเจ้าตัวก็เป็นล่ามที่ดีทีเดียว
“นี่ลืมกันแล้วรึหมอ…เอาเถอะ มีเรื่องอยากจะให้ช่วยหน่อยคงไม่เป็นการเสียเพลาหมอนักหรอก แล้วอ้ายจันทร์น้าบอกให้มาตามหมอทำไมห้องเละแบบนี้เจ้าจันทร์เดี๋ยวโบยเสียหรอก” เธียรบ่นออกมาในขณะที่เด็กน้อยรีบวิ่งออกไปทันทีก่อนที่จะโดนดุไปมากกว่านี้
“มีเรื่อง…? ”
“เรื่องนี้พิลึกนัก เมื่อเช้าเขามาขอความช่วยเหลือเรือนบอกว่าพบศพของไพร่ในเรือนพระยาหทัยญพินาศคล้ายมิได้ตายโดยปกตินักคล้ายถูกใครบางคนฆ่าตาย” เธียรรีบลากเขาลงเรือไปออกจากหมู่บ้านล่องสู่แม่น้ำเจ้าพระยายังคงสงบนิ่งพระนครเองก็เหมือนกับครั้งแรกที่โนแอลเห็นมัน
“แล้วฆาตกร ถูกจับแล้ว” เขากำลังพูดต่อแต่อีกฝ่ายเองก็ทำได้เพียงส่ายหน้าปฏิเสธ
“ยังลอยนวล”
“แต่เรายื่นมือไปยุ่งเกี่ยวจะดีเหรอ ไม่แน่อาจจะเกิดอันตรายก็ได้ พวกพี่เป็นขุนนางเป็นที่รู้จักมากกว่าคนทั่วไปทั้งยังมีครอบครัว…ให้ข้าไปเองอาจจะสะดวกกว่า อ้างว่าเป็นหมอที่จ้างมาไม่ได้เกี่ยวข้อง” เขาตอบกลับไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายไม่เอาด้วย
“ที่พูดไปเองก่อนหน้านี่ข้าขอย้อนเถอะ หากว่าครอบครัวหมอรู้เข้า…”
“ข้าไม่มีครอบครัว” เป็นอันสิ้นสุดการโต้เถียงเธียรเพียงแค่นิ่งพักหนึ่งแต่สำหรับโนแอลภาพในตอนมาที่นี่กลับเข้ามาในหัวย้อนนึกถึงตอนที่เขามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก
“แล้วกลามัวร์ ถึงจะเกิดเรื่องโชคร้ายแต่หากเขามองลงมาพบว่าหมอเป็นอันตราย…” เธียรถามออกมาคล้ายยิ่งย้ำภาพความทรงจำของเขาให้ชัดเจนมากขึ้น
“พวกเราพบกันที่โบสถ์เขาบอกว่าข้าเป็นน้องชายเพราะข้าโดนรังแกจากนักบวชคนอื่น แต่หลังจากถูกผู้คนในหมู่บ้านขับไล่เพราะเราไม่รับศาสนาเขาก็ได้พบรักกับไวเคานท์เตสผู้หนึ่งแต่เพราะฐานะที่แตกต่างจึงมิอาจรักกันเมื่อโดนจับได้จึงจำต้องหนีมาที่นี่เพราะอาจจะถูกฆ่าจากที่พวกเราไร้ศาสนา แท้จริงไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันหรือไม่” เขาตอบกลับอีกฝ่ายไปในตอนนั้นพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันมาตลอดแม้ในใจลึกๆ พ่อแม่ของเด็กกำพร้าทั้งคู่อาจไม่ใช่คนเดียวกันไม่มีสิ่งใดเชื่อมถึงกันเลย
ย้อนกลับไปตอนนั้นเรือที่เขาสัญจรกำลังแล่นเข้ามาเรื่อยๆ นั้นได้ปะทะกับเรืออีกลำหนึ่งถูกโจมตีจนเรือแตกผู้คนบนเรือบ้างเสียชีวิตบ้างบาดเจ็บแตกต่างกันไป โนแอลแบกร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดของพี่ชายตนขึ้นมาจากน้ำเขาพยายามที่จะรักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้โดยไม่แม้แต่จะสนใจว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตน ภาพที่โจรสลัดบนเรือถือปืนเดินเข้ามาหาเขานั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดกลัวใดๆ
“ฟื้นสิ กลามัวร์…” เขาในตอนนั้นรู้ดีว่าพี่ชายของตนตายไปแล้วแต่เขายังอยากจะพยายามรักษาต่อไปเผื่อว่าอีกฝ่ายจะฟื้นขึ้นมาในตอนนั้นร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาช่วยเขา ชายหนุ่มชาวสยามที่กำลังทุบตีโจรสลัดเหล่านั้นด้วยศิลปะป้องกันตัวที่มีเฉพาะตนก่อนที่อีกฝ่ายจะลากเอาเขาออกไปจากตรงนั้น
“รีบหนีได้แล้ว มากับพวกเรา” คนคนนั้นเอ่ยออกมาแต่ตอนนั้นเขากลับมิได้มีความตั้งใจมากพอที่จะมีชีวิตต่อ
“ทิ้งข้าไว้แล้วรีบไป” เขาพูดออกไปแบบนั้นพยายามเข้าไปหาร่างของพี่ชายที่สิ้นลมหายใจอยู่ตรงหน้าแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ในการลากคอเขาและพาหนีมาสำเร็จ
ตอนนั้นเขาถึงได้รู้จักอีกฝ่ายเธียรได้พาเขากลับมายังที่เรือนของบิดาตน หรือนี่จะเป็นการสิ้นสุดที่แท้จริงสำหรับการเริ่มต้นใหม่นี้เขาต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้คือการสิ้นสุดที่แท้จริงที่ไม่อาจยอมรับได้ น้ำตาที่ไหลอย่างเชื่องช้าทำให้นึกขุ่นข้องใจ เขาควรเริ่มต้นใหม่จริงๆหรือตายให้มันจบๆไปเสียที
“อย่าหันกลับไปมอง…” เสียงของเธียรตอนนั้นกล่าวกับเขาไม่คิดว่าเธียรจะเป็นบุตรชายของขุนนางที่ติดต่อกับพี่ชายของเขาไว้ตั้งแต่แรกทำให้การที่เขามาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องเหมาะสม
เขาเสียใจที่กลามัวร์จากไปและยึดติดกับเหตุการณ์ที่เขาไม่อาจช่วยกลามัวร์ได้เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างว่างเปล่าเป็นแพทย์ประจำตัวขุนนางทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เธียรและจันทร์ได้เข้าช่วยเขาไว้จากความรู้สึกย่ำแย่ที่เกิดขึ้นเขาจึงมีแรงที่จะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้
ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขานั้นมันยากเย็นที่จะผ่านมันไปจนมาถึงตอนนี้ที่เขาเริ่มชินชากับสถานที่แห่งนี้ไม่คิดว่าตนนั้นจะอยู่มาได้เนิ่นนานเช่นนี้ถึงอย่างไรในตอนนี้คงช่วยไม่ได้อีกแล้วเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของเขาเอง
“ขอโทษนะหมอ ไม่น่าพูดเลย” อีกฝ่ายในตอนนี้ตกใจกับสีหน้าของเขาอยู่มากไม่นึกว่าเขาจะพลั้งปากพูดออกไปลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกแย่กับเรื่องนี้มากเพียงใด
“ถึงแล้วนี่ใกล้กว่าที่ข้าคิด” โนแอลทำเป็นเปลี่ยนเรื่องถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้คิดเรื่องที่อีกฝ่ายเถียงกับเขาเมื่อครู่นักอย่างน้อยก็โดนตัดเบี้ยอย่างมากก็หางานใหม่ทำ แต่มาคิดดูเขายังไม่ชินชากับมาตราวัดบนแผนที่เรือนของพระยาหทัยญพินาศหรือกระทั่งแผนที่เดินทางของคนที่นี่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักคิดดูแล้วแม่น้ำเจ้าพระยาก็ดูสวยดีอยู่เหมือนกันเหม่อชมวิวสักพักก็รีบตามขึ้นเรือนไปไม่อยากให้อีกฝ่ายรอนาน
บนเรือนของพระยาหทัยญพินาศเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของเด็กสาวคนหนึ่งดังออกมา ไพรินทร์เด็กสาวอายุเพียงสิบสี่ปีที่นอนอยู่บนเตียงนี้รับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางงอย่างที่ใกล้เข้ามาคล้ายมองเห็นสัญลักษณ์แห่งความตายมาจากแขกของบิดาที่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ มาจากทั้งสองคนนั้น
ภาพความทรงจำที่เด็กหญิงได้เห็นนั้นรู้ว่าหากบอกพวกเขาไปจะนำพวกเขาไปสู่ความตายในเวลาต่อมาทำได้เพียงอยู่เงียบๆ ในห้องแม้วิญญาณที่มีเพียงเด็กสาวมองเห็นนี้ทำให้รู้สึกหวาดกลัว พวกมันตามหลอกหลอนนางอยู่แบบนั้นแม้ว่าบิดาจะเป็นห่วงแต่หากเล่าไปก็กลัวเพียงเขาอาจจะวิปลาสไปกับนางด้วย
แต่เด็กสาวเผลอตัวกรีดร้องไปแล้วผู้คนคงแห่กันมาที่นี่และถูกประณามว่าวิปลาสอีก สุดท้ายพวกเขาก็อาจจะตายโดยที่นางช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกับบ่าวที่น่าสงสารคนนั้น ตั้งแต่นางเห็นปีศาจที่ฆ่าบ่าวผู้นั้นนางกลับมองเห็นวิญญาณและความตายของผู้อื่นอยู่ไม่ขาดแม้บิดาจะให้หมอผีมาทำพิธีก็ไม่อาจช่วยได้รู้เพียงแต่ว่านางอาจจะวิปลาสก็ได้
“คนเหล่านั้นจักโดนปีศาจฆ่าตาย ปีศาจอยู่ที่นี่ขี่ม้าไปทั่วพระนครแล้วผู้คนจักต้องตายเป็นแน่” ไพรินทร์กล่าวออกมาด้วยท่าทางสั่นกลัวในตอนนั้นรอเพียงอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาประณามนางจากนั้นก็เป็นไปตามโชคชะตา
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด