ธาริกาทนเห็นน้ำตาของวาติยาแฝดน้องไม่ได้ เธอจึงสลับตัวกับน้องสาว เพื่อมาจัดการ นายราเชนทร์ สามีจอมปลอมของวาติยา ให้รู้ซะบ้างว่า ผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอทุกคน ...... “เธอออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป!” ราเชนทร์ไล่หญิงสาวความโมโห “ไม่ไป แก้วเพิ่งมาจะไล่แก้วไปไหนล่ะคะ คืนนี้แก้วจะทวนความจำให้พี่เชนทร์ รับรองพรุ่งนี้พี่เชนทร์ไม่มีทางไล่แก้วออกจากบ้านแน่นอนค่ะ” “ไป! ฉันบอกให้เธอออกไปจากบ้านของฉัน แม่โสเภณี!” ราเชนทร์เริ่มตัวสั่นเพราะความโกรธ เขาไม่เคยโกรธใครเท่าผู้หญิงคนนี้เลย ทั้งโกรธทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยง “คำก็โสเภณี สองคำก็โสเภณี ถามหน่อยเถอะว่าถ้าเมียเป็นโสเภณีแล้วผัวจะเป็นอะไร ก็เป็นแมงดาไง แสดงว่าพี่เชนทร์เป็นแมงดา ส่วนบ้านหลังนี้ก็เป็นซ่อง ” ธาริกาสวนกลับอย่างเจ็บแสบ ทำให้ราเชนทร์ถึงกับอึ้ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ แล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างบันได เขาเงื้อมือขึ้นสูงหมายจะตบใบหน้านวล แต่เสียงหวานใสของธาริกาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน “ตบสิ คุณตบฉัน ฉันจะตบคุณด้วยรองเท้าข้างนี้ เอาสิ! ตบสิ!” ธาริกาถือรองเท้าส้นสูงสีดำขึ้นเหนือศีรษะ ตั้งท่าจะฟาดกับใบหน้าของเขาทันทีที่เธอถูกทำร้าย ราเชนทร์ไม่คิดว่าวาติยาคนใหม่จะกล้าทำกับเขาแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาวาติยาคนเดิมไม่กล้าขึ้นเสียงกับเขา เขาว่าแรงๆ ก็เอาแต่ร้องไห้ แต่วาติยาคนนี้เถียงเขาทุกคำ แถมยังสู้ถ้าหากเขาคิดทำร้ายเธอ ร้ายมาร้ายกลับ...ไม่โกง
1
“พี่เชนทร์กลับมาแล้ว”
วาติยาพูดออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นสามีเดินเข้ามาในบ้าน หลังจากเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลานานเกือบหนึ่งเดือน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ต่างจากบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี เขามีใบหน้าที่เรียบตึง ดวงตาที่มองมายังภรรยาบอกถึงความไม่เป็นมิตร ใบหน้าเย็นชาไร้รอยยิ้ม วาติยาชะงักเท้าที่จะเดินเข้าไปหา เมื่อได้ยินคำพูดที่เธอได้ยินจนขึ้นใจแล้ว
“นึกว่ากลับมาบ้านคราวนี้ฉันจะไม่เห็นหัวเธอเดินอยู่ในบ้านของฉัน ที่ไหนได้ ยังลอยหน้าลอยตาทำเป็นคุณนายอยู่ที่นี่ หน้าด้าน ไม่มียางอาย เจ้าของบ้านไม่อยากให้อยู่ยังหน้าด้านหน้าหนา ไล่กี่ทีก็ไม่ยอมไปสักที”
ราเชนทร์ อิศราภักดี มหาเศรษฐีติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เจ้าของกิจการหลายอย่าง แต่ที่ทำเงินให้มากที่สุดคงจะเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ที่อยู่ในตึกอาร์ซีเอส ตึกสูง 65 ชั้น ที่ทำรายได้ให้กับเขาตกเดือนละหลายร้อยล้านบาท เขามองหน้าวาติยาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วยสายตาเกลียดชัง ดูแคลน สายตาที่มองมาทำให้วาติยารับรู้ถึงความเกลียดชังนั้นได้อย่างชัดเจน ไม่เคยมีสักวันที่เขาจะพูดดีๆ กับเธอ ไม่ว่าเธอจะทำดีกับเขามากแค่ไหนก็ไม่สามารถลบความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอได้
“แก้วเป็นเมียพี่เชนทร์ ก็ต้องอยู่ที่นี่สิคะ” วาติยาบอกเสียงอ่อย
“ฮึ เมีย ลองเอาเท้าของเธอขึ้นมาก่ายหน้าผาก แล้วคิดให้ดีซิว่าเธอเป็นเมียฉันหรือเปล่า”
ราเชนทร์ถามอย่างเดือดดาล เขาไม่เคยเห็นวาติยาเป็นภรรยาของเขาเลย ที่จำยอมแต่งงานจดทะเบียนสมรสด้วย ก็เพราะตัวเขาเองถูกวาติยาและมารดาของเธอ รวมหัวกันวางยาเขาและจัดฉากว่ามีอะไรกัน ถ้าไม่ติดว่าโฉมฉายมารดาของวาติยาจัดฉากได้อย่างดีเยี่ยม โดยพามารดาของเขารวมทั้งบุคคลที่สามและสี่และอีกหลายๆ ชีวิตเข้ามาเห็นเหตุการณ์ และที่สำคัญนักข่าว เขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ได้
“แต่ถึงยังไงแก้วก็เป็นเมียพี่เชนทร์” วาติยาเถียงเสียงเบาหวิว ราวกับคนพูดไม่เต็มปาก
“โอ๊ย ฉันอยากจะบ้าตาย คำก็เมียสองคำก็เมีย เท่าที่ฉันจำได้ ตั้งแต่แต่งงานอยู่กินกับคนที่อยากมีผัวจนตัวสั่น คิดจะจับผู้ชายรวยๆ อย่างเธอ ของของฉันไม่เคยล่วงล้ำเข้าไปในตัวของเธอเลยสักครั้ง อยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร เพราะฉันไม่อยากเกลือกกลั้วกับผู้หญิงร่านอย่างเธอ ฉันรังเกียจเธอ จำไว้นะวาติยาว่าฉันเกลียดเธอ เกลียดยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ นอนกับเธอฉันนอนกับโสเภณีราคาไม่กี่ร้อยยังดีซะกว่า จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วย”
ราเชนทร์ตะโกนออกมาดังลั่นห้องรับแขก วาติยารู้ว่าเขารังเกียจเธอมากแค่ไหน แต่ที่ทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมารดา ที่ทั้งบังคับและขู่เข็ญให้เธออยู่ที่นี่ อยู่เป็นคุณผู้หญิงของตระกูลอิศราภักดี ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยต้องการเลยสักนิด แค่คิดก็ยังไม่เคย
“วิชัย โทรไปหาจีนี่ให้หาผู้หญิงมาให้ฉันคนหนึ่ง ภายในหนึ่งชั่วโมงนะ”
ราเชนทร์สั่งเลขาส่วนตัวของเขาก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้าน โดยไม่สนใจวาติยาที่ยืนร้องไห้อย่างน่าสงสารเลย เขากลับแกล้งเดินชนเธอจนร่างบอบบางเซและล้มไปบนพื้นตามแรงชนทันที วิชัยมองวาติยาที่นั่งร้องไห้ อย่างสงสารและเห็นใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
คนสั่งเดินขึ้นไปที่บันไดไม่กี่ขั้น เขาหันหน้ามาทางวิชัยก่อนจะสั่งอะไรบางอย่างที่ทำให้วาติยาร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่าอีก หากราเชนทร์หาแยแสไม่
“ผู้หญิงมาแล้วให้พาไปที่ห้องของวาติยานะ ต่อจากนี้ไปฉันจะนอนกับโสเภณีที่ห้องของเธอ เพราะเธอคงไม่รังเกียจผู้ร่วมอาชีพเดียวกับเธอ จริงไหมวาติยา”
ราเชนทร์พูดจบก็เดินขึ้นไปชั้นบนพร้อมรอยยิ้มสะใจ คำพูดเขาเชือดเฉือนบาดลึกลงไปในจิตใจของวาติยา เธอไม่รู้ว่าจะทนอยู่ที่นี่ได้อีกนานเท่าไหร่ ระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา เธอเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น แต่เธอไม่เคยบอกใครแม้กระทั่งมารดาของเธอ ซึ่งมักจะมาหาเธอทุกครั้งที่เดือดร้อนเรื่องเงิน
นึกถึงโฉมฉาย ผู้เป็นมารดาก็ยิ่งเศร้าใจหนักขึ้น น้ำคารินไหลเป็นทาง โฉมฉายไม่สนใจความรู้สึกของวาติยาเลย ว่าจะสุขเศร้าเหงาหรือทุกข์ ไม่เคยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเธอด้วย นางสนใจแต่ตัวเองเท่านั้น
วาติยาเดินเข้ามาในห้องของเธอเมื่อตอนเกือบเที่ยงคืน หลังจากผู้หญิงที่ให้ความสุขกับราเชนทร์กลับไปแล้ว ร่างบางเดินมาหยุดนิ่งที่เตียงนอน ร่องรอยที่อยู่บนเตียงการันตีให้เห็นว่าราเชนทร์ทำอย่างที่พูดจริงๆ ที่นอนยับยู่ยี่ ถุงยางอนามัยใช้แล้วสองชิ้นวางไว้บนเตียงของเธอ วาติยาทรุดตัวลงนั่งกับพื้น มือทั้งสองข้างปิดใบหน้าพร้อมกับหลั่งน้ำตาที่อัดอั้นอยู่ในใจ เขาทำกับเธอเกินไปแล้ว ทำไมเขาไม่นึกถึงจิตใจเธอบ้าง ไม่รัก ไม่ชอบ เกลียดชังเธอ เธอไม่ว่า แต่อย่าทำอย่างนี้ มันเกินไป เกินไปแล้วจริงๆ โดยไม่สังเกตว่าราเชนทร์ได้มายืนพิงอยู่ที่ประตูห้อง
“อ้อ! วานเธอช่วยเก็บซากความสุขของฉันด้วยนะ หวังว่าเธอคงไม่รังเกียจ” ราเชนทร์พูดพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเขาที่อยู่ตรงข้าม
ไม่มีวาจาใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากวาติยา มีเพียงน้ำตาและเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ได้ยินตลอดทั้งคืน
หลังจากคืนนั้นราเชนทร์ก็พาผู้หญิงมานอนที่ห้องของวาติยาทุกคืน บางคืนอยู่ถึงตีสามของวันใหม่ ทำให้เธอแทบไม่ได้นอน สภาพห้องก็เหมือนเดิม ถุงยางอนามัยใช้แล้วถูกถอดวางไว้บนเตียงเหมือนเดิม เขาทำอย่างนี้มาร่วมหนึ่งเดือนแล้ว ความอดทนของเธอเริ่มเหลือน้อยลงทุกที วาติยาอยากจะหนีไปจากที่นี่ ไปให้ไกล ไปในที่ที่โฉมฉายไม่สามารถตามหาเธอได้
วาติยาอยากทำเช่นนั้น อยากทำใจแทบขาด แต่เป็นเพราะความกตัญญู เชื่อฟังมารดา เธอจึงไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ เพราะกลัวมารดาจะลำบาก หากถ้าไม่มีเธอ มารดาก็จะไม่มีเงินใช้ เนื่องจากโฉมฉายขอค่าเลี้ยงดูเดือนละสองแสน ซึ่งราเชนทร์ก็ตกลง
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้