เขาคืออสูรร้ายสำหรับเธอ เป็นบุคคที่ไม่น่าเข้าใกล้และควรถอยห่างเป็นที่สุด แต่ทำไมยิ่งถอยหนี เขายิ่งวิ่งเข้าใส่ แถมยังกระโจนร่างเข้าหาราวกับว่าเธอคือสมันเนื้อนุ่มที่น่าลิ้มลอง และไม่มีวันหยุดล่าหากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อโดนรุกหนักและมีเหตุจำเป็นที่ต้องยอมเป็นของเล่นของเขา ลูกแมวน้อยจึงจำยอมและจำใจทอดกายให้เขาเชยชม แต่ยิ่งชิดใกล้ เร่าร้อนด้วยเพลิงเสน่หา ความรู้สึกบางอย่างก็เบ่งบานในใจของทั้งคู่ไม่รู้ตัว
1
กรุงโรม ประเทศอิตาลี
ทิพย์ธาราเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันเวลาที่อแมนดานางแบบสาวชื่อดัง จะเดินแบบในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ เหตุผลที่เธอต้องเร่งรีบขนาดนี้เป็นเพราะว่า รองเท้าที่ทีมงานตระเตรียมไว้ให้อแมนดาเกิดไปไม่ถูกใจนางแบบสาวขึ้นมา อ้างว่าไม่เข้ากับชุดฟินาเล่ ชุดเด่นของงานที่จะสวมใส่ จอมเรื่องมากแห่งวงการนางแบบจึงบอกให้ทิพย์ธารานำรองเท้าที่เพิ่งซื้อใหม่มาให้แทน และต้องมาก่อนเริ่มงานด้วย งานนี้ผู้ได้รับคำสั่งจึงต้องรีบมาให้ทันเวลา
“รอด้วยค่ะ” ทิพย์ธาราร้องบอกเป็นภาษาอิตาเลียน เมื่อประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง ร่างบางรีบแทรกเข้าไปในลิฟต์ทันที
“ชั้นไหนครับ” ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้แผงกดหมายเลขชั้นเอ่ยถาม
“สิบเจ็ดค่ะ” ทิพย์ธาราตอบ และเพิ่งรู้ว่าตนอยู่ท่ามกลางชายรูปร่างสูงใหญ่ห้าคน ข่มเธอเสียจนดูตัวเล็กลงไปถนัดตา แต่ละคนแต่งกายด้วยชุดสูทเนื้อดีสีดำ จะมีเพียงบุคคลเดียวที่สวมชุดสูทสีขาว แล้วเขาคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกตามชั้นต่างๆ ตามความต้องการของคนโดยสารลิฟต์ที่ผลัดกันเข้าและออกเมื่อถึงชั้นนั้นๆ ทว่าหลังจากชั้นที่สิบเป็นต้นไป มีแค่คนเข้ามาภายในลิฟต์ ส่งผลให้ลิฟต์ตัวนี้คล้ายกับปลากระป๋องเข้าไปทุกที
ร่างของทิพย์ธาราเริ่มถอยร่นไปทางด้านหลังทีละก้าวเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์ จนกระทั่งลิฟต์ถูกเปิดออกอีกครั้งเมื่อถึงชั้นที่สิบสาม สตรีวัยสวยใสสามคนเดินเข้ามาภายในลิฟต์ทำให้เธอต้องถอยร่นเข้าไปด้านในเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสามคนนั้น
ทิพย์ธาราหัวใจเต้นรัว เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสเบียดชิดกับแผงอกกว้างของชายที่สวมชุดสูทสีขาว กลิ่นกายบวกกับน้ำหอมของบุรุษด้านหลัง ทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในความรู้สึกของเธอเวลานี้คือชายหนุ่มคนดังกล่าวเป็นคนที่น่าเข้าใกล้ ในขณะเดียวกัน เขาคือคนที่น่าถอยห่างมากที่สุดเช่นกัน
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชีมองทิพย์ธาราผ่านแว่นตาสีชาเข้มที่สวมใส่ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาภายในลิฟต์ รูปร่างบอบบาง ใบหน้าสวยหวานทำให้เขารู้สึกหัวใจสั่นแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แล้วยิ่งเรียวปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีนู้ดเปล่งประกายน่าสัมผัสเหลือเกิน จนเขาอยากจะนำริมฝีปากทาบทับและบดจูบให้หนำใจ อยากจะพิสูจน์นักว่าริมฝีปากที่เขาอยากลิ้มลองมีรสชาติอร่อยลิ้นมากแค่ไหน บวกรวมกับกลิ่นกายสาวที่โชยเข้ามาในโพรงจมูก เป็นความหอมที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมชั้นเลิศ แต่มาจากเนื้อกายสาวโดยธรรมชาติ หอมกรุ่นด้วยกลิ่นแป้งกระป๋องบางเบา และที่น่าแปลกก็คือกลิ่นกายของเธอนั้น ปลุกเร้าความปรารถนาของเขาให้กระพือได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำลงมาจนกระทั่งปลายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมหอมกรุ่นกลิ่นแชมพูของเธอ จากนั้นเลื่อนลงไปที่ท้ายทอยและต้นคอระหงอย่างย่ามใจ
ทิพย์ธาราตัวแข็งดุจท่อนไม้ เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของชายหนุ่มตัวโตกระทบกับต้นคอของตน หัวใจของสาวน้อยแรกแย้มเต้นเร็วแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากร่างกาย หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวหนีสัมผัสของชายแปลกหน้า หากแต่อุ้งมือหนาจับบ่าของเธอไว้มั่นอย่างถือสิทธิ์ บังคับไม่ให้สาวร่างเล็กขยับกายหนีได้ ลูกแมวน้อยทั้งกลัวและตื่นเต้นในคราเดียวกัน
“ตึ๊ง” เสียงลิฟต์ที่เดินทางมาถึงชั้นที่สิบเจ็ดดังขึ้น แล้วมันเหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิตของทิพย์ธารา และพอประตูลิฟต์เปิดออกคนที่อยู่ในลิฟต์สองคนก็ก้าวเดินออกไป ทิพย์ธาราได้โอกาสจึงสะบัดตัวอย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกไปจากลิฟต์ทันที โดยไม่หันหลังกลับมามองหน้าชายคนนั้นอีกเลย
“เราต้องได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชี มาเฟียชื่อดังจากเกาะซิซิลี มองร่างที่วิ่งหนีไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา เขาอยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่มีคำว่า ไม่ ในพจนานุกรมของเขาโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
ร่างสูงใหญ่เคลื่อนกายออกจากตัวลิฟต์ชั้นเดียวกับเธอ โดยมีลูกน้องคู่ใจเดินตามหลังมา เพื่อเข้าไปในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ในฐานะเจ้าของงาน
ทิพย์ธาราก้าวเดินไปยังห้องส่วนตัวของนางแบบสาวที่ทางเจ้าของงานจัดเตรียมไว้ให้ด้วยขาอันสั่นเทาเพราะเธอยังไม่ลืมช่วงนาทีระทึกใจสดๆ ร้อนๆ ที่ผ่านมา แต่พอเข้ามาในห้องดังกล่าวแล้วยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ คนที่อยู่ในห้องก็ระเบิดความไม่พอใจทันที
“ทาร่าทำไมมาช้าจัง อีกไม่กี่นาทีงานจะเริ่มแล้วนะ”
อแมนดาวีนใส่ทิพย์ธาราตามประสาคนเอาแต่ใจ
“ตอนที่อแมนดาโทรมาสั่งให้เอาของมาให้ทาร่าอยู่ที่บ้านน่ะ กว่าจะไปเอาของที่อพาร์ตเมนต์ของคุณ แล้วกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ต้องใช้เวลาหน่อยสิคะ” ทิพย์ธาราตอบขณะที่ส่งของให้อแมนดา
“อืมๆ ฉันลืมไป” เสียงของนางแบบสาวอ่อนลง “แล้วนี่หน้าตาซีดเชียวไม่สบายหรือเปล่า”
อแมนดาถามด้วยความเป็นห่วง ภายนอกคนอาจจะมองว่านางแบบสาวเป็นคนขี้วีน เรื่องมาก เอาแต่ใจตัวเอง แต่อแมนดาก็คอยช่วยเหลือครอบครัวทิพย์ธารามาตลอด
การช่วยเหลือของอแมนดาเกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน หลังจากพ่อเลี้ยงและมารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทำให้ทิพย์ธาราเคว้งคว้างเหมือนลอยอยู่กลางอากาศไร้หลักยึดและพึ่งพิง เพราะมองไปทางใดล้วนแล้วแต่มืดมิด ครอบครัวของพ่อเลี้ยงไม่ชอบมารดาและเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงขับไล่เธอและน้องออกจากบ้าน เงินที่มีติดตัวอยู่ไม่มากนัก แต่มากพอที่จะหาห้องเช่าเล็กๆ อยู่อาศัยกันได้สามคนพี่น้อง
ทิพย์ธาราทำงานทุกอย่างเพื่อให้ตัวเธอและน้องอยู่รอด ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย ถิ่นฐานบ้านเกิดที่อบอุ่นมากกว่าอยู่ต่างแดน และที่ทิพย์ธาราได้มาทำงานเป็นสาวใช้ของนางแบบสาวเป็นเพราะอแมนดาต้องการสาวใช้คนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนคนเก่าที่ไม่สามารถทนกับนิสัยของเธอได้ โดยบอกผ่านมาเรียเจ้าของร้านเสื้อชื่อดังให้หาให้ และบังเอิญเหลือเกินที่ทิพย์ธาราทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่นั่น ทิพย์ธาราจึงสมัครเป็นสาวใช้คนใหม่ของอแมนดาทันที
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย