‘ชีคมาลิก บิน ชารีฟ อัล นามีรุน’ ผู้ได้รับฉายา "เสือดำแห่งนามีรุน" เมื่อ ‘เสือดำ’ หนุ่ม อยากขย้ำแม่กวางน้อย จนร้อนรุ่ม กลัดกลุ้ม นอนไม่ได้ การเจรจาซื้อขายให้เธอมาอยู่ในฮาเร็มของเขาคงเป็นทางออก แต่ผู้หญิงอย่าง 'เนตรดารา' กลับซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ‘ถ้าไม่มากพอ’ เขาถูกมองว่าเป็น 'แกะดำ' ของราชวงศ์ และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ ‘ลูกของเสือดำ อาจเป็นเสือดาว และลูกของเสือดาวก็อาจกลายเป็นเสือดำได้ แต่ที่สำคัญก็คือ เสือจะไม่กลายเป็นอย่างอื่นนอกจาก “เสือ” เท่านั้น’
ท่ามกลางเสียงฮือฮาของบรรดาผู้ร่วมงาน รวมทั้งเสียงกรีดร้องเล็กๆ ของเหล่าสาวๆ ที่ต่างแข่งขันกันแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อประชันความสวยงามของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะในค่ำคืนนี้พวกเธอคนใดคนหนึ่งอาจจะสวยสะดุดสายตาจนทำให้ได้งานที่จะสร้างความสบายไปได้อีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนด้วยกัน แต่บุรุษหนึ่งกลับไม่สนใจอะไรเกินกว่า
‘เมื่อไรงานจะเริ่ม’ เพราะไม่ชอบเลยที่จะอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆ แบบนี้ และโดยเฉพาะไม่ใช่คนที่เขาจะควบคุมได้เสียด้วย
เรือนร่างสูงใหญ่สไตล์หนุ่มยุโรปอยู่ในสูท ‘ไดมอนด์ อาร์เมอร์’ ซึ่งเป็นชุดสูทรุ่นล่าสุดที่บริษัท ‘สูทอาร์ท’ ออกแบบมาสำหรับมหาเศรษฐี นักธุรกิจ เจ้าพ่อ มาเฟีย หรือเหล่าคนดังทั้งหลายที่สนใจสั่งตัด เพราะนอกจากไดมอนด์ อาร์เมอร์จะมีคัตติ้งสุดเนี้ยบที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูดีมีคลาสแล้วนั้น ผู้สวมใส่ยังได้คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ไม่ธรรมดา เพราะอาภรณ์ทรงสง่านี้มีคุณสมบัติกันกระสุน กันน้ำ และมีระบบทำความเย็นในตัว ว่ากันว่าคุณสมบัติทั้งหมดนี้ราวกับเป็นสูทที่ออกแบบมาเพื่อ ‘เจมส์ บอนด์’ โดยเฉพาะ และเมื่อคุณสมบัติอันเพอร์เฟกต์นี้มาอยู่บนเรือนร่างสูงสง่า มันก็ช่างเหมาะสมยิ่งนัก
ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ยุโรปผสมอาหรับยังคงเคร่งขรึมมีเพียงดวงตาคมเข้มเท่านั้นที่ชำเลืองมองหนุ่มหล่อมากๆ อีก 4 คนที่ได้รับผลโหวตจากสาวๆ ทั่วโลกให้ได้รับรางวัล ‘Men of The year หรือ สุดยอดหนุ่มในฝัน’ ของนิตยสารเฮอแมนจัดขึ้น สาบานได้ว่าเขาจะไม่มีทางเชิญทั้ง 4 คนนี้ไปเยือนอาณาจักรของเขาเด็ดขาด เพราะในดินแดนที่เขามีสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียว เขาก็ควรจะหล่อสุดคนเดียวเท่านั้น
คิดดังนั้นศีรษะทุยสวยได้รูปก็ส่ายไปมานึกขำขันกับความคิดของตัวเอง เดิมทีครั้งแรกที่เฮอแมนติดต่อไป เขาไม่อยากมาสักนิด ติดแต่ ‘เสือเฒ่าอามีน’ ที่คะยั้นคะยอพร้อมยกแม่น้ำทั้งโลกมาอ้าง ว่านี่คือช่องทางหนึ่งที่เขาจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ ‘ราชอาณาจักรนามีรุน’ ได้อีกมุมหนึ่ง และถ้าไม่ใช่เรื่องงานมีเหรอที่ ‘เสือดำ’ อย่างเขาจะอยากออกจากถ้ำ ที่เต็มไปด้วย ‘แบล็ก โกลด์’ และนางฟ้าทั้ง 1,000 ในฮาเร็ม
ยิ่งมารู้เอาในงานว่าเสือดำไม่ได้มาตามลำพัง แต่ยังมีเสือหนุ่มทรงพลังตามฉายาของแต่ละคนที่ได้รับการขนานนามไว้อีก 4 สายพันธุ์มาร่วมด้วยในวันนี้ ยอมรับว่าหงุดหงิดไม่ใช่น้อย เสือ 2 ตัวยังอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่นี่ ‘นิตยสารเฮอแมน’ กล้ามากที่จะรวมเอาเสือหนุ่มทั้ง 5 มาอยู่รวมกัน โดยเฉพาะที่เสือหนุ่มแต่ละคนนั้นเต็มไปด้วย ‘แรงขับเคลื่อนทั้งทางด้านธุรกิจ พละกำลัง รูปร่างหน้าตา และ เซ็กซ์แอพพีล’ อันล้นเหลือ
‘ชีคมาลิก บิน ชารีฟ อัล นามีรุน’ ผู้ได้รับฉายา "เสือดำแห่งนามีรุน" หรือ ‘เจ้าพ่อแห่งแบล็ก โกลด์’ ชีคหนุ่มผู้สง่างามแห่งราชอาณาจักรนามีรุน กวาดดวงตาคมเข้มยาวรีดุจเมล็ดอัลมอนด์สำรวจหนุ่มหล่อที่ได้รับการโหวตให้เป็น ‘Men of The year หรือ สุดยอดหนุ่มในฝัน’ ของนิตยสารเฮอแมน เช่นเดียวกับเขา
หัวคิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเพียงนิดก่อนจะคลายลงอย่างเร็ว เพราะกฎพื้นฐานของการเป็นผู้นำ ‘การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า’ เป็นสิ่งที่ควรละเว้นให้มาก แต่มันก็น่าหงุดหงิดนักที่ตาเฒ่าอามีนไม่กระซิบบอกเขาในเรื่องนี้ เพราะคงไม่มีเรื่องใดในโลกใบนี้ที่จะรอดหูรอดตาเสือเฒ่าแห่งนามีรุนไปได้ หรือว่าอามีนต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ
เพราะนอกจาก ‘ธุรกิจน้ำมัน’ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำคัญของโลกที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็ต้องการทรัพยากรอันมีค่านี้เพื่อใช้สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจ บนโลกใบนี้ก็ยังมีอีก 4 ธุรกิจที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจเทคโนโลยี การขับเคลื่อนฟาดฟันทางเส้นทางธุรกิจโดย ‘ซีอีโอ’ วัยหนุ่มฉกรรจ์ ที่มักทำให้สาวๆ ในฮาเร็มของเขามีจำนวนที่ลดลงเสมอ นั่นก็คือ
‘แลร์รี่ จาคอป’ ฉายา ‘เสือจากัวร์แห่งวอชิงตัน ดี.ซี’ เจ้าของแลร์รี่กรุ๊ป ที่มีธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยวทั้งทางน้ำ บนบก และอากาศ มีสาขาอยู่ทั่วโลก
‘มาร์ค เลวิน’ ฉายา ‘เสือดาวแห่งแลนด์มาร์ค’ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมหานครลอนดอน และมีสาขากระจายไปทั่วโลก โดยทำหน้าที่เป็นนายทุนร่วมหุ้นกับรัฐบาลหรือนักธุรกิจของประเทศนั้นๆ นับว่าเป็นกลยุทธ์อันชาญฉลาดเพราะมันคือการประกาศศักดาของแลนด์มาร์คให้รู้จักไปทั่วโลกโดยใช้เม็ดเงินลงทุนน้อยกว่าครึ่ง
‘คาร์ลอส โรดิเกส’ ฉายา ‘เสือโคร่ง’ ธุรกิจการเงินการธนาคาร คงไม่มีปฏิเสธที่จะเป็นเพื่อนของโรดิเกส เพราะเขาเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่ดีที่สุดของการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ดูได้จากเครือข่ายของ ‘โรดิเกส แบงก์’ ที่มีอยู่นับ 100 สาขาทั่วโลก อย่างว่าเงินบันดาลได้ทุกสิ่งในโลก
‘ธีโอ ไคล์’ ฉายา ‘เสือชีต้าร์’ เพราะธุรกิจโทรคมนาคมของไคล์ ถือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารทุกแขนงในโลก เป็นผู้นำโครงข่ายใยแก้วนำแสงและมีดาวเทียมเป็นของตัวเอง ความก้าวล้ำและว่องไวในเทคโนโลยีควรวางไว้ในฝ่ามือของไคล์
และตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อามีน ก็อยากให้เขาสนิทสนมกับทั้ง 4 หนุ่มนี้ให้มาก เพราะใดๆ ในโลกล้วนไม่แน่นอน ในวันนี้เขาอาจเป็นเจ้าของธุรกิจทองคำดำที่ใครๆ ก็อยากจะคบค้าด้วย แต่หากในอนาคตเมื่ออำนาจนั้นเปลี่ยนมือ พันธมิตรทางธุรกิจที่ดีอาจทำให้เขาก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ ซึ่งเขาคิดว่าตาเฒ่าอามีนช่างไร้สาระสิ้นดี เพราะอะไรก็ตามที่ตกมาอยู่ในมือของเสือดำ จะไม่มีวันเปลี่ยนมือ นอกจากเขาจะยินยอมด้วยหัวใจ
“ไม่สนุกหรือครับท่านชีค”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"