ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ซงยุ่นยุ่นแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวกลับไม่ได้ปรากฏตัวเลย
ชุดเครื่องนอนสีแดง ตัวอักษรอวยพรที่อยู่บนฝาผนัง สีที่โดดเด่นสะดุดตาเหมือนกับกำลังตบหน้าของเธอทีละฉาด
ความอัปยศอดสู! ไม่พอใจ!
แต่แล้วจะทำยังไงได้
ตั้งแต่เกิดมาชีวิตของเธอก็ล้วนแต่อยู่ในกำมือของคนอื่นมาโดยตลอด รวมถึงการแต่งงานนี้ด้วย
ที่เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลเจียง ก็เป็นเพราะความโลภของพ่อ
ปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของเฒ่าแก่เจียง จากอุบัติเหตุเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้คุณปู่เสียงชีวิตเนื่องจากช่วยชีวิตเฒ่าแก่เจียงไว้
บริษัทเล็ก ๆ ที่ดำเนินการกันเองในครอบครัว ได้แบกหนี้สินก้อนโต้ ใกล้จะล้มละลาย พ่อผู้เฉลียวฉลาดรู้ว่าถ้าเกิดไปขอเงินจากตระกูลเจียง บุญคุณที่ติดค้างไว้ก็จะชดใช้หมด ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีกอบโกยผลประโยชน์จากคนอื่นขึ้นมา โดยเสนอให้เจียงเย่าจิ่ง หลานชายของเฒ่าแก่เจียงแต่งงานกับเธอ
จากความมั่งคั่งของตระกูลเจียง จะต้องมอบสินสอดก้อนใหญ่ให้อย่างแน่นอน
แล้วก็สามารถได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเจียงด้วย
ตระกูลเจียงเนื่องด้วยรักในศักดิ์ศรีของตัวเอง ก็เลยไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
การแต่งงานในครั้งนี้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาก็เลยไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงแต่งงานที่จัดขึ้นระหว่างสองตระกูลเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเสนอเงื่อนไขออกมาว่า ห้ามไม่ให้เธอแสดงตัวว่าเป็นภรรยาของเขาในที่สาธารณะอีกด้วย
เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่มีใครถามเธอเลยว่าเธอเต็มใจหรือไม่
เธอลืมตาที่สว่างสดใส ขนตาที่ม้วนงอนสั่นกระพือเล็กน้อย เก็บซ่อนความรั้นเอาไว้
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าจะข้ามผ่านคืนแรกของการแต่งงานนี้ไปยังไงนั้น เธอก็ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงาน
ขอให้เธอช่วยมาเข้าเวรแทน
เธอเรียกรถไปที่โรงพยาบาล
จากชุดแต่งงานสีแดงเปลี่ยนเป็นเสื้อกาวน์สีขาว
จู่ ๆ ประตูของห้องเฝ้าเวรก็ถูกเปิดออกมาอย่างรุนแรง เสียงดังปัง
เธอกำลังคิดที่จะเงยหน้าขึ้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาก่อน ไฟในห้องดับลง
ซงยุ่นยุ่นขนลุกตั้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใคร...”
คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกกดลงไปบนโต๊ะ สิ่งของที่อยู่บนโต๊ะร่วงตกลงเต็มพื้นเสียงดังโครมคราม มีดแหลมคมจ่อตรงคอของเธอ ก่อนจะพูดขู่ออกมา “หยุดพูด!”
ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว เธอเห็นแค่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด และดวงตาที่ดุร้ายคู่นั้นของผู้ชายคนนั้นเท่านั้น
กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นโชยมาแตะที่ปลายจมูก เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บ
บางทีอาจจะเป็นเพราะงานของเธอ ทำให้เธอมีนิสัยที่สงบนิ่ง
เธองอขาขึ้นมาเบา ๆ พยายามโจมตีไปยังจุดอ่อนของผู้ชายคนนั้น แต่ทันทีที่เธอขยับก็ถูกผู้ชายคนนั้นจับได้ เขาใช้แรงหนีบสองขาที่อยู่ไม่สุขของเธอเอาไว้
“ฉันเห็นว่ามันมาทางนี้ชัด ๆ ”
เสียงฝีเท้าเริ่มเข้ามาใกล้ประตู
ได้ยินเสียงของพวกเขากำลังจะเปิดประตู
ในช่วงวิกฤต ผู้ชายคนนั้นก้มหน้าลงจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ
ซงยุ่นยุ่นขัดขืน ผลักผู้ชายคนนั้นออกไปเขาไม่ได้ใช้อาวุธแหลมคมที่อยู่ในมือทำร้ายเธอ
เธอชะงักไป
แกร๊ก!
ตอนนี้ลูกบิดประตูถูกบิดแล้ว
ซงยุ่นยุ่นรู้สึกตื่นตระหนก เงยหน้าขึ้นมาจูบตอบกลับไป เธอเริ่มเป็นฝ่ายโอบคอของผู้ชายคนนั้นเอง
เสียงของเธอสั่น แต่พยายามฝืนให้สงบนิ่ง “ฉันช่วยคุณได้นะ”
ลูกกระเดือกของชายคนนั้นขยับขึ้นลง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนจากผู้ถูกกระทำเป็นฝ่ายกระทำแทน ลมหายใจที่ร้อนผ่าวรดใบหูของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำ และเซ็กซี่ “ผมจะรับผิดชอบคุณเอง”
ไม่สิ เขาเข้าใจผิดแล้ว เธอแค่อยากที่จะแสดงละครเท่านั้น
นาทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก
เธอก็ร้องครวญครางออกมาแบบในละครเสียงครวญที่นุ่มนวลนั้น ทำให้ชายคนนั้นหลุ่มหลง
แล้วก็ทำให้คนที่อยู่ตรงประตูนั้น ได้ยินแล้วก็รู้สึกวาบหวามเช่นกัน
“ให้ตายสิ มาแอบเอากันในโรงพยาบาลแบบนี้ ช่างเร้าใจจริง ๆ ”
ประตูห้องถูกเปิดออก แสงไฟตรงทางเดินส่องลอดผ่านช่องเข้ามาข้างใน ชายคนนั้นกดร่างกายของเธอเอาไว้ บดบังการสอดส่องของคนตรงประตู ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัวเห็นแค่เรือนร่างที่ชวนให้เห็นแล้วเลือดลมสูบฉีดด้วยอารมณ์ที่ตื่นตัว
“ไม่มีทางเป็นเจียงเย่าจิ่งอย่างแน่นอน มันบาดเจ็บขนาดนั้น ต่อให้เอาสาวงามขนาดไหนมาให้มัน มันก็ทำไม่ไหว”
“นังนี่ร้องครางได้อารมณ์จริง ๆ ”
“รีบไปหาตัวมันสิวะ ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายแน่ ๆ !”
เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ออกไปไกลเรื่อย ๆ
ชายคนนั้นรู้ว่าคนกลุ่มนั้นไปกันแล้ว แต่เขาพบว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป ถูกผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้มากระตุ้นความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเข้าแล้ว
อาจเป็นเพราะบรรยากาศเป็นใจ และท่าทางของทั้งสองคนก็ดูโรแมนติก ในที่สุดความอดกลั้นที่กดอยู่ในใจของซงยุ่นยุ่นก็ปะทุขึ้นมาก็เหมือนกับก่อการกบฏ
ชีวิตที่ถูกควบคุมบงการ ทำให้ชีวิตของเธอดำมืดไปหมด
เธอต่อต้านมันด้วยการปล่อยเนื้อปล่อยตัวทำตามใจตัวเอง!
ซงยุ่นยุ่นเองก็ไม่ได้ต่อต้านขัดขืนอะไร เธอคล้อยตามชายคนนั้น มอบครั้งแรกของตัวเองไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
......
หลังจากเสร็จสิ้นแล้วชายคนนั้นก็จูบแก้มของเธอเบา ๆ เสียงในลำคอที่ทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความแหบแห้ง “เดี๋ยวผมจะกลับมาหาคุณ” พูดจบก็ออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
ซงยุ่นยุ่นไม่ได้ลุกขึ้นมาทันที ช่วงเอวถูกกดทับกับขอบโต๊ะอยู่นาน ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปหมด
และตอนนี้โทรศัพท์ที่ถูกดันมาอยู่ตรงขอบโต๊ะเกือบจะตกลงไปนั้นก็ดังขึ้นมา
เธอยื่นมือออกมาคว้าเอาไว้ มีเสียงที่รีบร้อนดังขึ้นมาจากในสาย “คุณหมอเฉิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์กำลังรออยู่ที่แผนกฉุกเฉิน บาดเจ็บสาหัสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ คุณรีบมาเถอะ”
ซงยุ่นยุ่นจัดการกับเสียงของตัวเอง ก่อนจะตอบกลับไปอย่างนิ่ง ๆ “ค่ะ ฉันจะรีบไป”
พอวางสายลง เธอก็เหม่อไปสองสามวินาที เมื่อตะกี้...
เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะตรงส่วนล่าง ล้วนแต่กำลังบอกกับเธอว่า เมื่อตะกี้นี้มันไม่ใช่ความฝัน มันเกิดขึ้นจริง เธอมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนวันแต่งงานจริง ๆ ...
ชีวิตนี้ทั้งชีวิตของเธอ นี่เป็นเรื่องที่เธอแหกกฎที่สุด!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะมุ่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉินทันที
ยุ่งมาตลอดทั้งคืน
เธอกลับมาถึงห้องเฝ้าเวร ห้องยังคงระเกะระกะอยู่
พอเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน สองมือก็กำแน่นเล็กน้อย
“หมอซ่งขอบคุณที่มาเฝ้าเวรแทนฉันนะคะ” เฉินเวินเหยียนเดินตรงมาอย่างยิ้มแย้ม
ซงยุ่นยุ่นพยายามฝืนยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมา “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ฉันจัดการธุระเสร็จแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ” พอเฉินเวินเหยียนเห็นห้องระเกะระกะ ก็ยกคิ้วขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”
ซงยุ่นยุ่นหันหน้าไป เธอปกปิดความตื่นตระหนกในแววตา “ฉันไม่ทันระวังเผลอไปชนข้าวของจนตกหล่นเข้าน่ะ ในเมื่อคุณมาแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
เฉินเวินเหยียนรู้สึกว่าเธอแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะเข้าไปเก็บข้าวของที่อยู่บนพื้น
แต่ในเวลานี้คณบดีก็พาฮั่วซวิน ผู้ช่วยของเจียงเย่าจิ่งมาที่ประตู
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้