มู่เสวี่ยหลิง ชาติก่อนช่างโง่เขลานางหลงคำป้อยอของขุนนางเมืองหลวง ละทิ้งคู่หมั้นนายน้อยตระกูลเศรษฐีที่รักตนเองอย่างถึงที่สุด ทำให้ต้องตกตายอย่างไร้ที่กลบฝัง ทำร้ายคู่หมั้นที่แสนดีอย่างหยวนเซิ่งเจ๋อให้มีชะตาชีวิตอันน่าอนาถไม่แพ้กัน หยวนเซิ่งเจ๋อ ชาติก่อนเพราะรักมู่เสวี่ยหลิงมาก ยอมถูกตัดออกจากตระกูล ยอมกลายเป็นขอทาน แม้กระทั่งยอมแลกชีวิตอันรุ่งโรจน์ในฐานะนายน้อยบุตรชายเศรษฐี เพียงเพื่อให้ได้อยู่กับนางอันเป็นที่รัก มู่เสวี่ยหลิงวิงวอนต่อสวรรค์...ข้าจะเป็นเช่นไร หาได้สนใจไม่ ขอเพียงให้ข้าได้มีโอกาสกลับไปเปลี่ยนชะตาชีวิตของชายผู้นี้ เพื่อชดใช้ความผิด ที่ข้ากระทำจนไม่อาจให้อภัยตนเองด้วยเถิด
มู่เสวี่ยหลิง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเสียใจสิ่งใดในชีวิตมาก่อน นางเป็น
คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็ยังมีบิดาและคู่หมั้น
ค้ำยันไว้ให้ ภัยอันตรายใดๆ ไม่มีทางได้แตะต้องผิวกายเนียนละมุนดุจหยกชั้นเลิศของนาง
หากยามนี้ เพียงนางทอดตามองเขา ความเจ็บปวดราวถูกฟาดฟันด้วยหมื่นกระบี่พลันปะทุขึ้นครอบคลุมทั้งร่างและวิญญาณ เป็นความเจ็บปวดที่นางไม่อาจบ่งบอกบรรยายได้ นางเจ็บยิ่งกว่าครั้งใดในชีวิตเมื่อได้เห็นความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยจากบุรุษเบื้องหน้านาง
ร่างของมู่เสวี่ยหลิงโปร่งใสไร้ผู้ใดมองเห็น ทั้งยังมีความดำมืด
สายหนึ่งโอบล้อมรอบกาย นางเป็นเพียงวิญญาณที่ไม่อาจละวางความห่วงกังวลทั้งมวล หลงวนเวียนอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกทั้งยังยึดมั่นถือมั่น
จนไม่ยินยอมปล่อยวาง ทั้งนางยังคงเป็นวิญญาณอาฆาต ตามติดคนที่
ทำร้ายนางจนตายพวกนั้น ทว่านางกลับเป็นเพียงวิญญาณทุกข์ระทม
ดวงหนึ่ง ได้แต่ล่องลอยอยู่รอบกายอดีตคู่หมั้นไม่ห่าง
หยวนเซิ่งเจ๋ออดีตคู่หมั้นของนาง กำลังนั่งอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกและน้ำเสียเน่าเหม็น เพียงกลิ่นที่โชยออกไปนอกตรอกก็
ทำผู้คนต้องรีบหลีกหนี เป็นสถานที่โสมมที่แม้แต่ขอทานยังไม่คิดเฉียดใกล้
ทว่าหยวนเซิ่งเจ๋อกลับยังนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเหม่อมองออกไปไกลลิบ มุมปากขยับยกเป็นรอยยิ้มงดงามราวกับว่าที่เบื้องหน้าของเขามีนางในดวงใจกำลังร่ายรำด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยเหมือนในปีนั้น ปีที่
มู่เสวี่ยหลิงเพิ่งปักปิ่นได้ไม่นานและสัญญาว่าจะนั่งเกี้ยวแปดคนหาม
แต่งเข้าตระกูลหยวนของเขา
“หลิงหลิง”
เสียงแหบแห้งพึมพำอยู่ในลำคอ ยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงครึกครื้น มู่เสวี่ยหลิงกลับได้ยินมันชัดเจนยิ่งกว่าครั้งใด
“หลิงหลิง เจ้าหิวหรือไม่”
มู่เสวี่ยหลิงกัดริมฝีปากกลั้นสะอื้น นางคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา พยายาม
เรียกเขาซ้ำ ๆ แต่โลกของคนตายและคนเป็นนั้นแยกจาก ต่อให้นางพยายามเพียงใด สุดท้ายก็มีเพียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่านใบหน้าหยวนเซิ่งเจ๋อเท่านั้น
“หลิงหลิง” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง
เสียงในครั้งนี้ดังกว่าครั้งก่อนอยู่สักหน่อยแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหลือประมาณ ใบหน้าหล่อเหลาของหยวนเซิ่งเจ๋อบิดเบี้ยว ทั้งสายตาก็มืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นข้าไร้สามารถเจ้าจึงต้องหิวตาย เป็นข้าไร้สามารถเจ้าจึงได้รับความอยุติธรรมเช่นนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะข้า...”
มู่เสวี่ยหลิงส่ายศีรษะไปมา เส้นผมหยาบกระด้างของนางสะบัดอยู่รอบร่างผอมแกร็น หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งหัวเมืองเหนือ ยามตายตกกลับมีสภาพย่ำแย่กว่าขอทานในเมืองเสียอีก
นางคลานเข้าไปหาเขา แขนโปร่งแสงของนางยกขึ้นสูง แต่เพราะเป็น
เพียงวิญญาณ มันจึงทะลุผ่านตัวเขา ไม่อาจแตะต้องใบหน้าหยวนเซิ่งเจ๋อได้
“พี่หยวน พี่หยวน”
เสียงของนางสั่นเครือด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด สีหน้านาง
คับแค้นเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ บ่าไหล่บอบบางคู้เข้าหากันอย่างตรมตรอม
“เป็นข้าที่เลวร้ายจึงทำให้ท่านถูกท่านลุงขับไล่ออกจากตระกูล เป็นข้าที่ทำให้ท่านป้าตรอมใจตาย พี่หยวน ท่านดีทุกอย่าง เป็นข้าที่ไม่ดี
สักอย่าง เป็นข้าที่ผิดต่อท่านทั้งหมด”
มู่เสวี่ยหลิงเป็นบุตรสาวของพ่อค้าใหญ่ของเมืองเป่ยอันเป็นหัวเมืองเหนือ แม้จะเป็นหัวเมืองแต่ก็เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ไร้ความสำคัญ แต่เพราะทางเหนือมีผ้าผ่อนแพรพรรณงดงามอยู่มาก ไม่นานเมืองเป่ยจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
เริ่มมีการทำการค้าต่างเมือง บิดานาง มู่เหยียนจง เป็นคนมองการณ์ไกล หลังจากเขาเห็นว่าลายผ้าในมือสามารถทำการค้าได้ก็รีบหาเงินมาลงทุน ไม่นานสกุลมู่ก็กลายเป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวย
มู่เสวี่ยหลิงเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนายท่านมู่ มารดาเสียชีวิตตั้งแต่ตอนคลอดทำให้มู่เหยียนจงรักและตามใจบุตรสาวอย่างยิ่ง ต่อให้เขาจะมีอนุและสาวใช้อุ่นเตียงแต่ก็ไม่เคยยอมให้ใครตั้งท้อง เพราะเกรงว่าบุตรสาวคนงามจะน้อยเนื้อต่ำใจและพาลไม่พูดคุยกับเขา
มู่เสวี่ยหลิงจึงเติบโตมาบนกองเงินกองทอง ไม่ว่านางอยากได้
สิ่งใด บิดาก็หามาให้ทั้งหมด แต่เมื่อนางอายุได้เจ็ดหนาว ตระกูลหยวนก็เริ่มมีอิทธิพลจนสามารถกดข่มตระกูลมู่ไว้ได้ มู่เหยียนจงที่กลัวว่าบ่อเงิน
บ่อทองของตนจะสูญหาย จึงเสนอให้หมั้นหมายระหว่างบุตรสาวของตนกับบุตรชายคนโตของสกุลหยวนไว้ก่อน
หยวนเซิ่งเจ๋อ บุตรชายคนโตของสกุลหยวน เขาหล่อเหลา
เฉลียวฉลาด สุภาพและถ่อมตน เป็นคุณชายใหญ่ตระกูลพ่อค้าที่คุณหนูทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะแต่งให้เขา แม้จะพลาดตำแหน่งภรรยาเอกของเขาไป แต่ก็ยังมีตำแหน่งฮูหยินรอง ฮูหยินสาม และอีกสี่อนุให้ไขว่คว้า
แต่เพียงหยวนเซิ่งเจ๋อพบหน้ามู่เสวี่ยหลิงในคราแรก เขาก็ตกหลุมรัก
นางจนถอนตัวไม่ขึ้น เพียงนางเหลือบตามอง เขาก็พร้อมจะควักหัวใจตนเองวางใส่มือนางด้วยความเต็มใจ
“หลิงหลิง”
หยวนเซิ่งเจ๋อเอนกายลงนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาหอบหายใจหนักหน่วง ข้าง ๆ มีร่างหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ด้วย หากเขาคล้ายมองไม่เห็นใบหน้าที่ขึ้นอืดจนไร้เค้าโครงเดิม ทั้งยังมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง เขาเอื้อมมือกอดรัดร่างนั้นไว้แนบอกอย่างไม่รังเกียจ ปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“หลิงหลิง เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่”
มู่เสวี่ยหลิงรีบพยักหน้า แต่ถึงนางจะร้องไห้คร่ำครวญปานใด หยวนเซิ่งเจ๋อก็ยังเป็นคนเป็น เขาไม่มีทางได้ยินเสียงของนาง
มู่เสวี่ยหลิงลองทำทุกอย่างที่จะให้เขารับรู้ถึงนาง นางเคยพยายามเข้าฝันเขาอย่างที่เคยได้ยินเรื่องเล่าเมื่อตอนเด็ก ๆ พยายามจะเข้าสิงเขา พยายามหยิบสิ่งของรอบตัวเขา แต่เพราะนางเป็นเพียงวิญญาณที่เศร้าโศกดวงหนึ่ง ไร้ซึ่งแรงอาฆาตแค้น นางจึงทำได้เพียงก่อเกิดสายลมอ่อนๆ พัดพาให้หยวนเซิ่งเจ๋อรู้สึกสบายตัวขึ้นชั่วครู่เท่านั้น
มู่เสวี่ยหลิงนึกโทษตนเองไม่หยุดหย่อน นางอยากจะกลับไปใน
วันนั้น วันที่นางตัดสินใจทำร้ายเขาด้วยสองมือตนเอง วันที่นางทำลายชีวิต เหยียบย่ำความรู้สึกเขาประหนึ่งเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดไร้หัวจิตหัวใจเพื่อความรุ่งโรจน์ชั่วขณะของตนเอง
มู่เสวี่ยหลิงเคยลำพองว่านางเลือกถูกแล้ว แต่เมื่อฟ้ากระจ่างผ่านไป ความมืดมนอันโหดเหี้ยมก็เข้าแทนที่ นางจึงได้รู้ว่านางเลือกเดินทางผิด นางเลือกขุมนรกอันเลวร้ายให้ตนเอง นางหยิบยื่นมีดอันคมกริบให้บุรุษ
ชั่วช้าผู้นั้นด้วยตนเอง แล้วมันก็ใช้มีดนั้นทำลายนางอย่างเลือดเย็นที่สุด
เรื่องราวนี้ได้เริ่มจากการที่ “ที่รัก” สาวสวยพนักงานใหม่ ตกลงยินยอมแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ “กันต์ธี” ประธานบริษัทหนุ่มสุดหล่อมาดนิ่ง เจ้าของธุรกิจมากมายรวมทั้งบริษัทที่เธอได้ทำงานอยู่ แต่จากแค่แกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ หลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่ม “แอบมีใจให้กัน” เพราะตอนที่ใช้เวลาร่วมกันนั้นได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งวายป่วงน่าปวดหัว สนุก มีความสุข และอบอุ่นหัวใจ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในตอนต้น ด้วยสถานะทางสังคมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะกล้าก้าวข้ามเส้นความแตกต่างนั้นหรือไม่? ความรักของทั้งสองจะก่อเกิดขึ้นมาได้จริงหรือ?
สวี่กงเหมย บุตรสาวบุญธรรมของปรมาจารย์หมื่นพิษ ต้องคอยเป็นผู้ดูแลและปรุงยาให้กับเขา ท่านแม่ทัพแห่งแดนเหนือ ตั้งแต่อยู่บนหุบเขาหมื่นพิษ แล้วยังต้องตามไปดูแลถึงชายแดนเหนือและในเมืองหลวงจนกว่าจะครบหนึ่งปี เซวียนจางหย่ง แม่ทัพแห่งชายแดนเหนือ ผู้ที่มีศักดิ์และฐานะอันสูงส่ง ในชีวิตนี้ คุณหนูนางใด หญิงสาวคนไหน ที่ว่ามีความเพียบพร้อมในทุกด้าน ตัวเขากลับมิเคยชายตาแล แต่คงใช้ไม่ได้กับสาวน้อยบ้านป่าคนนี้ เจอกันครั้งแรกนางก็หมายยิงเขาด้วยธนูเสียเเล้ว จากนั้นตัวเขาและนางก็กลายเป็นเหมือนน้ำมันกับไฟ ถึงแม้นางจะกลั่นแกล้งเขาไว้มากน้อยเพียงไหนในตอนที่อยู่ในหุบเขาหมื่นพิษ เขากลับมิเคยโกรธ และไม่รู้ว่านานเพียงใด ที่ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น สายตาของเขาก็มีไว้เพียงมองนางเท่านั้น
สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!
สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!
กู้เฟยหลง หัวหน้าหน่วยอวี้หลิน ขุนนางผู้ซึ่งทำงานขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ เสียชีวิตจากการตามสืบราชการลับ ทั้งที่ได้ให้สัญญาไว้กับฮูหยินของตนเองว่าจะรีบกลับมาฉลองเทศกาลหยวนเซียวด้วยกัน หยางลี่อิน หญิงสาวที่เข้มแข็ง มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่ด้วยความสามารถพิเศษ ทำให้นางรู้ว่าสามีของนางยังไม่จากไปไหน แต่จะทำเช่นไร เมื่อสามีกลับจำนางไม่ได้ เพราะรักจึงท้าทายสวรรค์ ฝืนหวนกลับคืนมายังโลกเบื้องหลัง แต่สวรรค์ใช่ว่าใครก็สามารถท้าทายได้ ราคาที่ต้องจ่าย มักแพงกว่าเสมอ…
อานนท์ ชายหนุ่มโสดอายุ 25 ปี หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู๊ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว